ไอซ์ทะลักลงใต้ไม่หยุด ! สกัดจับได้ 400 กิโลกรัม พร้อมเฮโรอีน 77กิโลกรัม [คลิป]

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส.  จับกุมตัว นายสำราญ หรือบิน เชื้อกุล อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97 ม.10 ต.วังใหม่ อ.บรบือ จว.มหาสารคาม นายอรัญ หรือหนุ่ม แก้วกันยา อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 137 ม.13 ต.โคกสี อ.สว่างดินแดน จว.สกลนคร นายเจติยา แก้วกันยา อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 ม.4 ต.บ้านต้อง อ.เซกา จว.บึงกาฬ นายบุญส่ง ปรารภ อายุ 39 ปี ยอยู่บ้านเลขที่ 107 ม.3 ต.โคกสี อ.สว่างดินแดน จว.สกลนคร นายวิทวัช บุดดีพุธ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 558 ม.2 ซอยเจริญศิลป์ 15 ถนนคำภูแสน ต.เจริญศิลป์ อ.เจริญศิลป์ จว.สกลนคร และ น.ส.จารุวรรณ สมทอง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153 หมู่ 3 ถนนหนองคำคู ต.ทุ่งแก อ.เจริญศิลป์ จว.สกลนคร

พร้อมยึดของกลางเป็นยาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) ลักษณะเป็นเกล็ดใส บรรจุในถุงชาสีเขียว น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มถุงละประมาณ 1 กิโลกรัม รวม 400 ถุง น้ำหนักประมาณ 400 กก. บรรจุไว้ในกระสอบปุ๋ยซุกซ่อนไว้ใต้ท่อพีวีซี ภายในรถยนต์บรรทุกหกล้อซึ่งนายสำราญ เชื้อกุล ขับขี่มา นอกจากนี้ตำรวจยังตรวจพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ลักษณะเป็นผงสีขาวขุ่น จำนวน 200 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 77 กก. บรรจุในกระสอบปุ๋ย ซุกซ่อนไว้ใต้ท่อพีวีซี

พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส.เปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจปราบปรามยาเสพติดเฝ้าติดตามพฤติกรรมของกลุ่มนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ ที่ลักลอบนำยาเสพติดเข้าไปประเทศไทย ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่ 3 โดยใช้เส้นทางในพื้นที่ภาคใต้ จึงบูรณาการกำลังจนสามารถจำกุมผู้ต้องหาทั้ง 6 คนได้ โดยแบ่งหน้าทีกันทำคือ นายสำราญ จะทำหน้าที่ขับรถขนลำเลียงยาเสพติด ส่วนนายอรัญ นายเจติยา และนายบุญส่ง ทำหน้าที่ขับรถนำและสำรวจเส้นทาง ส่วนนายวิทวัช และ น.ส.จารุวรรณ จะคอยทำหน้าที่ตรวจสอบการเดินทางของรถขนลำเลียง

คดีนี้ตำรวจจับตัวนายสำราญได้ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขามหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา ส่วนนายอรัญ นายเจติยา และนายบุญส่ง ถูกจับได้ที่ด่านตรวจยาเสพติดบ้านพละ อ.ปะทิว จว.ชุมพร และเตามขยายผลจับนายวิทวัช และ น.ส.จารุวรรณ ได้ที่โรงแรมวีบี ทุ่งสง ห้อง 1307 อ.ทุ่งสง จว.นครศรีธรรมราช เบื้องต้นตำรวจได้ทำการยึดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหา มูลค่ารวมท้้งสิ้นประมาณ 3,400,000 บาท ก่อนจะนำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.4 ดำเนินคดีต่อไป