ภรรยาร่ำไห้ รับศพสามีที่โดดตึกศาลอาญาดับ เผยไม่มีลางบอกเหตุ วอนเจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรม

นางเรวดี คัฬหสุนทร ภรรยา พร้อมนางสาวปทุมมา เนตรเชวียง น้าสาว เดินทางมาที่สถานบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อรับศพนายศุภชัย คัฬหสุนทร ที่กระโดดลงมาจากชั้น 8 ศาลอาญารัชดา จนเสียชีวิตเมื่อวานนี้ เนื่องจากเกิดความเครียดและผิดหวังหลังศาล ยกฟ้องคดีที่นายธนิต คัฬหสุนทร ลูกชาย ถูกคนร้ายแทงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 15 เม.ย.2559 ที่ผ่านมา

โดยนายเรวดี เล่าว่า เธอไม่คิดคาดคิดว่าสามีจะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย เพราะก่อนเดินทางไปฟังคำพิพากษา สามีอารมณ์ดีร่าเริงและไม่คิดว่าศาลจะยกฟ้อง อีกทั้งไม่มีรางร้ายบอกเหตุใดๆ กระทั่งสิ้นคำพิพากษา สามีขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งเธอไม่คาดคิดว่าสามีจะคิดสั้น โดยตอนนั้นเองเธอก็คิดจะกระโดดตึก ฆ่าตัวตายเหมือนแต่มีคนมาดึงไว้ทัน

จึงอยากวิงวอนขอความเป็นธรรมกับผู้มีอำนาจ เนื่องจากครอบครัวต้องสูญเสียทั้งสามีและบุตร หากถึงที่สุดแล้วไม่ได้รับความเป็นธรรมก็มีสิทธิ์ที่เธอจะคิดสั้น แม้ว่าคนอื่นจะมองว่าตัวเองเป็นคนโง่ก็ตาม อย่างไรก็ตาม จะนำร่างของสามีไปเพ็ญกุศลที่วัดกุนนทีรุทธาราม ย่านห้วยขวาง

ขณะที่ แนวทางการต่อสู้หลังจากนี้ นางเรวดี ยืนยันจะเดินหน้าต่อทั้งในชั้นศาลอุทธรณ์ และฎีกา โดยขอขอบคุณผู้มีอำนาจที่สั่งให้มีการรวบรวมหลักฐานเพื่อตรวจสอบว่าคดีมีความบกพร่องส่วนใด เพราะที่ผ่านมา ตำรวจเจ้าของสำนวน ให้ครอบครัวหาหลักฐานฝ่ายเดียว ถึงขั้นสามีลาออกจากงานประจำเพื่อติดตามคคดีและหาหลักฐาน จึงรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากคู่กรณีเป็นผู้มีอิทธิพล เป็นคนมีฐานะ ในท้องถิ่น จนทำให้พยานจำนวนมากไม่กล้าบอกว่าใครเป็นคนร้ายที่แท้จริง เพราะเขาก็ไม่อยากเดือดร้อน

นอกจากนี้พยานหลักฐานที่เป็นกล้องวงจรปิดไม่สามารถนำมาใช้ในการหักล้างกับคู่กรณีได้ เนื่องจากมีกล้องบางตัวในจุดเกิดเหตุไม่สามารถใช้การได้ แต่ยืนยันหากตำรวจมีความพยานยามในการหาหลักฐานด้วยเชื่อว่าสามารถหาคนร้ายตัวจริงมาลงโทษได้ บางคดีศพถูกเผายังหาคนร้ายมาลงโทษได้เลย