เมื่อเสี่ยอ้วน บางลา เจอทางตัน คิวต่อไป ไอ้โก้ .. ระวังตัวให้ดี

ภายหลังจากชุดสืบสวนคดีสำคัญของสำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ ( จตช.) ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นทีมสืบสวนฝีมือดีที่เคยปฎิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้การนำทีมของ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยพล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาค1 พล.ต.ต.สุรจิต ขิงนวรรณ ผบก.สระแก้ว พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.ชลบุรี พ.ต.อ.ศักดิ์รพี เพรียวพานิช รอง ผบก.ชลบุรี พ.ต.อ.ฐกร โสภิษกุลผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว พ.ต.อ.พัฒนา ปรีชานันท์ กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.เสกสรร วัฒนพงศ์ ผกก.สภ.คลองลึก พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.สระแก้ว พล.ต.สุขสันต์ หนองบัวล่าง ผบ.กกล.บูรพา พล.ต.หทัยเทพ. กีรติอังกูร ผบ.มทบ.19 พ.อ.สุทัศน์. ยุทธภีมพล. ผู้บังคับการ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่.13 เข้าประสานงานกับตำรวจกัมพูชา เพื่อขอความช่วยเหลือในการไล่ล่าตัว นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ "เสี่ยอ้วน บางลา "เจ้าของสถานบันเทิงหลายแห่งใน จ.ภูเก็ต ผู้ต้องหาตามหมายจับร่วมกันกับเพื่อน สังหารโหด น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ น้องสปาย อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือน้องฟอส อายุ 20 ปี เสียชีวิตบริเวณลานจอดรถฝั่งตรงข้าม พระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

หลังจากทีมสืบสวนใช้ความพยายามในการแกะรอยติดตามเพื่อไล่ล่าตัวเสี่ยอ้วน ในที่สุดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 สิงหาคม 2561 ชุดสืบสวนของไทยและตำรวจกัมพูชา ก็พบตัวเสี่ยอ้วน ที่ชายแดนประเทศกัมพูชา ในพื้นที่จังหวัดไพรเวง ขณะกำลังจะหลบหนีข้ามไปยังประเทศเวียดนาม ล่าสุดขณะนี้ทางการกัมพูชา ได้ควบคุมตัวเสี่ยอ้วน ไว้เรียบร้อยแล้วซึ่งขั้นตอนต่อไปทางการกัมพูชาจะนำตัวนายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน ดำเนินคดีข้อหาหลบหนีเข้าเมืองที่ กรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา ซึ่งทีมงานจเรตำรวจแห่งชาติก็จะเดินทางไปเจรจาประสานงานเพื่อขอนำตัวเสี่ยอ้วนกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าความสำเร็จในการติดตามตัวเสี่ยอ้วน ครั้งนี้เกิดขึ้นจากความพยายามของทีมสืบสวนที่เริ่มแกะรอยการสื่อสาร ระหว่างเสี่ยอ้วน และกลุ่มคนสนิท จนสามารถควบคุมตัวคนไทยและชาวกัมพูชาอย่างน้อย 4 คน ที่ให้การช่วยเหลือพาเสี่ยอ้วนหลบหนี เมื่อทีมช่วยเหลือถูกจับ เส้นทางหลบหนีของเสี่ยอ้วนในประเทศกัมพูชา ก็เริ่มน้อยลง จนบีบให้เสี่ยอ้วนต้องพยายามหาหนทางที่จะหนีข้ามไปยังประเทศเวียดนาม แต่ด้วยความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดีของพล.ต.อ.สุชาติ และ รองผบ.ตร.ของกัมพูชา ทำให้ทีมสืบสวนสามารถจับตัวเสี่ยอ้วนได้ก่อนที่หลบหนีไปยังประเทศเวียดนาม

ขณะนี้ขั้นตอนการนำตัวเสี่ยอ้วน กลับมาดำเนินคดีในไทยยังอยู่ระหว่างการดำเนินการของทางการกัมพูชา ซึ่งคาดการณ์ว่าทางการกัมพูชา จะนำตัวเสี่ยอ้วน มาส่งให้ทางการไทยที่ชายแดนบ้านคลองลึก ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยขณะนี้ พล.ต.อ.สุชาติ พร้อมทีมสืบสวนและหน่วยเกี่ยวข้อง ตั้งศูนย์ประสานงานอยู่ที่สถานีตำรวจภูธรคลองลึก โดยมีรายงานข่าวแจ้งว่าหลัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เสร็จสิ้นภารกิจในพื้นที่ จ.อุดรธานี จะเดินทางมาร่วมสอบปากคำเสี่ยอ้วนด้วยตนเอง

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่าสิ่งที่ทางการกัมพูชาได้ประสานขอความร่วมมือกับทางการไทย คือการช่วยติดตามตัวผู้ต้องหาชาวกัมพูชา ที่หลบหนีเข้ามายังประเทศไทย หลังก่อคดีฆาตกรรมสำคัญ ซึ่งขณะนี้ทีมสืบสวนคดีสำคัญของสำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ ได้จัดชุดไล่ล่าตัวแล้ว และเช่นเดียวกัน กำลังชุดสืบสวนของไทยและกัมพูชายังคงเร่งตามตัว นายอัศยา ชัยภา หรือโก้ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาฆ่า น.ส.ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ หรือ ไฮโซเชอร์รี่ นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่ยังหลบหนีอยู่ในประเทศกัมพูชา ด้วยเช่นเดียวกัน