หนุ่มช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ โดยรวบ หลังตระเวนงัดตู้เติมเงิน

ครีมตัดเหล็ก รถจักรยานยนต์ หมวกกันน๊อก เสื้อผ้า กระเป๋าเป้ เหล็กงัดยางรถยนต์ และอีกจำนวนหนึ่งคือของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บกน.9 และชุดสืบสวน สน บางขุนเทียนยึดมาได้จากดารจับกุมนายอรุณสิทธิ์ หรือเต่า ลิมประกมลศักดิ์ อายุ 36 ปี ระหว่างหลบหนีไปกบดาน ห้องเช่าเลขที่ 103 อาคารทีดีเพลส ซอยกระทุ่มล้ม 1 ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ต.บางกระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม พร้อมของกลาง ยาบ้า 20 เม็ด ไอซ์น้ำหนัก 1.28 กรัม และรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่นคลิ๊กสีแดงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน หมวกนิรภัยแบบเต็มใบสีขาวพ่นสีดำอำพราง 1 ใบ เสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ตอนก่อเหตุ 2 ชุด กระเป๋าเป้สีดำคาดขาว 1 ใบ กระเป๋าเป้สีดำคาดส้ม 1 ใบ คีมตัดเหล็กขนาดใหญ่ 1 อัน เหล็กงัดยางรถยนต์ 1 แท่ง และอุปกรณ์ที่ใช้งัดแงะตู้เติมเงินโทรศัพท์อีกจำนวนหนึ่ง

พล.ต.ต.ภานุรัตน์ หลักบุญ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้ ตระเวน ก่อเหตุในพื้นที่สน.บางขุนเทียนและใกล้เคียง โดยการงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะเลือกที่เป็นลักษณะหอพัก โดยก่อเหตุมาแล้วรวม 13 ครั้ง ได้เงินไปจำนวนมาก

ซึ่งเบื้องต้น นายอรุณสิทธิ์ รับสารภาพว่า ก่อนถูกจับรู้สึกมีลางไม่ดีเพราะเกิดอาการเขม่นที่ตาข้างขวาตั้งแต่เมื่อวานนี้ ที่ผ่านมาหลบหนีการจับกุมตามหมายจับคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เพราะขโมยของของชาวบ้านใน ท้องที่ สน.แสมดำ ตั้งแต่ปี 2559ไปกบดานตามห้องเช่าย่านชานเมือง รอยต่อจังหวัดกรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร และนครปฐม โดยยึดอาชีพเปิดร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซค์เล็กๆ อยู่ในซอยสวนหลวง ย่านกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร แต่ระยะหลังเกิดติดยาบ้าและไอซ์ อย่างหนัก โดยเฉพาะยาบ้าต้องหามาเสพให้ได้ทุกวัน วันละ 4-5 เม็ด หากไม่ได้เสพก็จะหงุดหงิดทำงานซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ไม่ได้ ตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันจึงขี่รถมอเตอร์ไซค์ลุยเดี่ยวตระเวนก่อเหตุงัดตู้เติมเงินมือถือเลือกเฉพาะตู้สีเขียวแดงเพราะงัดแงะง่ายตามแหล่งชุมชนต่างๆ ในพื้นที่ฝั่งธนบุรีส่วนใหญ่เพื่อหาเงินมาซื้อยาเสพ

พล.ต.ต ภาณุรัตน์ กล่าวแนะผู้เป็นเจ้าของตู้ในลักษณะดังกล่าวว่า ควรทำเงื่อนไขผูกขาดการเช่าซื้อตู้ดังกล่าว เพื่อให้ง่ายต่อการเก็บรักษา เช่น หากถึงเวลาจะได้ยกเก็บเข้าภายในบ้านหรืออาคารได้ โดยการวางไว้ในที่แจ้งเวลากลางคืน ถือเป็นการเสี่ยง ล่อแหลมต่อการถูกโจรกรรมได้

ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้แจ้งข้อหาครอบครองยาบ้าและไอซ์เพื่อจำหน่าย และข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน แก่ นายอรุณสิทธิ์ ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สน.แสมดำ ดำเนินคดีตามหมายจับคดีเก่า ส่วนข้อหาตามฐานความผิดงัดตู้เติมเงินมือถือ ซึ่งเชื่อว่า นายอรุณสิทธิ์ ก่อเหตุมาไม่ต่ำกว่า 100 ตู้ จะประสานพนักงานสอบสวนท้องที่ต่างๆ ทั้งในกองบัญชาการตำรวจนครบาล และ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นำหลักฐานมาอายัดตัวแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิด และทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์นั้นเบื้องต้นตำรวจลงพื้นที่คุมเข้มมาตรการพูดคุยกับริษัทให้ขายสิทธิ์ขาดตู้เติมเงินกับเจ้าของร้านที่ตู้ตั้งหน้าร้าน