svasdssvasds

สั่งจำคุก “ป๋ากบ” คดีค้ามนุษย์ “วิคตอเรียฯ” 18 ปี 16 เดือน

สั่งจำคุก “ป๋ากบ” คดีค้ามนุษย์ “วิคตอเรียฯ” 18 ปี 16 เดือน

ศาลพิพากษาคดีค้ามนุษย์ “วิคตอเรีย ซีเครท” สั่งจำคุกป๋ากบ และป๋าติ๊ก คนละ 18 ปี 16 เดือน ส่วนป๋านัส และป๋าต้น ศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 19 ก.ย.

ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก มีคำสั่งให้เบิกตัว นายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย หรือป๋าติ๊ก อายุ 67 ปี ,นายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ หรือป๋ากบ อายุ 55 ปี ,นายชัยณรงค์ อันสุข หรือป๋าสง่า อายุ 54 ปี ,นายมนัส อ่วมทับ หรือป๋านัส อายุ 48 ปี ,นายเอกณพัชร์ จารุวัฒน์ปฐมกุล หรือพี่ป๊อป อายุ 29 ปี ,นายสมชาย แสงอุดม หรือป๋าต้น อายุ 52 ปี ,ห้างหุ้นส่วนจำกัด อมรินทร์ ออนเซน โดย น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ในฐานะผู้มีอำนาจ ,น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ และบริษัท เดวิส ซิลเวอร์สตาร์ จำกัด โดยนายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย หรือป๋าติ๊ก ในฐานะผู้มีอำนาจ เป็นจำเลยที่1-7 ในความผิดฐาน “ร่วมกันสมคบ ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อค้ามนุษย์ฯ”

กรณีเมื่อระหว่างต้นเดือน ธ.ค.60- 12 ม.ค.61 พวกจำเลยสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปค้ามนุษย์ โดยวางแผน แบ่งหน้าที่กันทำเป็นธุระจัดหา หญิงสาวชาวไทย 2 คน ชาวเมียนมาร์ 7คน อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี เพื่อการค้าประเวณีเพื่อสนองความใคร่ผู้อื่นในสถานอาบ อบนวด วิคตอเรีย ซีเคร็ต ถ.พระรามเก้า รวม 2 สำนวน ที่ ห้องพิจารณา 709

สั่งจำคุก “ป๋ากบ” คดีค้ามนุษย์ “วิคตอเรียฯ” 18 ปี 16 เดือน

โดยสำนวนแรก คดีหมายเลขดำ คม.25/2561 ศาลยกฟ้องนายบุญเฉลียว หรือเอส จันทร์พิมพ์ จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเพียงผู้ขี่วินรถจักรยานยนต์รับส่งผู้เสียหายระหว่างแมนชั่นที่พักกับที่ทำงานสถานอาบอบนวดโดยไม่ทราบว่าผู้เสียหายนั้นมีอายุเท่าใด และจำเลยไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเป็นธุระจัดหาค้าประเวณี

ส่วน นายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ หรือป๋ากบ อายุ 55 ปี จำเลยที่ 2 , นายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย หรือป๋าติ๊ก ในฐานะผู้มีอำนาจบริษัท เดวิส ซิลเวอร์สตาร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดการสถานบริการ จำเลยที่ 3 นั้นให้จำคุกคนละ 3 ปี 4 เดือน ฐานร่วมเป็นเจ้าของหรือควบคุมค้าประเวณีเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282 , พ.ร.บ.ค้าประเวณี พ.ศ.2539

สำหรับ น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ จำเลยที่ 4 ในฐานะผู้มีอำนาจเป็นหุ้นส่วนจำกัด ในห้างหุ้นส่วนจำกัด อมรินทร์ ออนเซน ที่ขอใบอนุญาตดำเนินกิจการนั้น ก็มีความผิดด้วย แต่ให้ลงโทษสถานเบาเนื่องจากเป็นการกนะทำโดยส่วนตัวไม่ใช่โดยห้างหุ้นส่วน ก็ให้จำคุก 8 เดือน

สั่งจำคุก “ป๋ากบ” คดีค้ามนุษย์ “วิคตอเรียฯ” 18 ปี 16 เดือน

โดยให้ยกฟ้องห้างหุ้นส่วนจำกัด อมรินทร์ ออนเซน จำเลยที่ 5 และให้จำคุก 6 ปี นายเดชา หรือสิงห์สาครเดชา จำเลยที่ 6 (จำเลยได้ประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี) ตามปนะมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282 , พ.ร.บ.ค้าประเวณี พ.ศ.2539 , พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามกานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรข้ามชาติ พ.ศ.2556 โดยจำเลยเป็นขับรถกระบะพาเด็กสาวผู้เสียหายที่ถูกส่งตัวจาก กทม.ไป อ.สะเดา จ.สงขลา ไปค้าประเวณียังประเทศมาเลเซีย

ทั้งนี้ศาลให้ยกฟ้องข้อหาค้ามนุษย์ เพราะพยานหลักฐานโจทก์ยังไม่พอฟังให้ลงโทษ

ส่วนสำนวนที่ 2 หมายเลขดำ คม.26/2561 ซึ่งเป็นการฟ้องว่าได้รร่วมกระทำผิดต่อเด็กสาวอายุกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปีนั้น ศาลมีคำพิพากษาว่า นายศรัทธาธรรม หรือป๋าติ๊ก ผู้จัดการสถานบริการ จำเลยที่ 1 , นายบุญทรัพย์ หรือป๋ากบ จำเลยที่ 2 , นายชัยณรงค์ หรือป๋าสง่า จำเลยที่ 3 , นายเอกณพัชร์ จารุวัฒน์ปฐมกุล หรือพี่ป๊อป อายุ 29 ปี มีความผิดเป็นธุระจัดหาฯ จำคุกคนละ 15 ปี 12 เดือน

รวมจำคุก นายศรัทธาธรรม หรือป๋าติ๊ก ผู้จัดการสถานบริการ กับนายบุญทรัพย์ หรือป๋ากบ ทั้ง 2 สำนวนแล้ว จำคุกทั้งสิ้น 18 ปี 16 เดือน

สั่งจำคุก “ป๋ากบ” คดีค้ามนุษย์ “วิคตอเรียฯ” 18 ปี 16 เดือน

ส่วนน.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ จำเลยที่ 4 ในฐานะผู้มีอำนาจเป็นหุ้นส่วนจำกัด ในห้างหุ้นส่วนจำกัด อมรินทร์ ออนเซน ที่ขอใบอนุญาตดำเนินกิจการ จำเลยที่ 6 ให้จำคุก 7 ปี 6 เดือน ทั้งนี้รวมจำคุกทั้ง 2 สำนวนแล้ว รวมจำคุก 7 ปี 14 เดือน

สั่งจำคุก “ป๋ากบ” คดีค้ามนุษย์ “วิคตอเรียฯ” 18 ปี 16 เดือน

โดยให้ยกฟ้องห้างหุ้นส่วนจำกัด อมรินทร์ ออนเซน จำเลยที่ 5 กับบริษัท เดวิส ซิลเวอร์สตาร์ จำกัด จำเลยที่ 7 ที่เป็นเพียงนิติบุคคลเรื่องการเช่าสถานที่ และให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมดในข้อหาค้ามนุษย์ด้วย

ภายหลังฟังคำพิพากษาแล้ว อัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ ได้เปิดเผยว่า จะทำความเห็นเสนอให้อุทธรณ์คดีทั้ง 2 สำนวนนี้ต่อไปในส่วนที่มีการยกฟ้องข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ด้วย

สั่งจำคุก “ป๋ากบ” คดีค้ามนุษย์ “วิคตอเรียฯ” 18 ปี 16 เดือน

ขณะที่ในส่วนของนายมนัส หรือป๋านัส อ่วมทับ อายุ 48 ปี และนายสมชายหรือป๋าต้น แสงอุดม อายุ 52 ปี จำเลยร่วม ซึ่งเป็นกลุ่มพนักงานเชียร์แขก ที่แยกฟ้องอีกสำนวนในคดีหมายเลขดำ คม.24/2561 เพราะจำเลยให้การรับสารภาพนั้น ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 19 ก.ย. นี้ เวลา 09.00 น.

related