svasdssvasds

ออกหมายจับ อดีตผกก. เมืองกาฬสินธุ์ เบี้ยวนัดฟังฏีกา

ออกหมายจับ อดีตผกก. เมืองกาฬสินธุ์ เบี้ยวนัดฟังฏีกา

ศาลอาญามีคำสั่ง ออกหมายจับ พ.ต.อ.มนตรี ศรีบุญลือ อดีตผกก. เมืองกาฬสินธุ์ หลังไม่มาฟังคำพิพากษาศาลฏีกา ชี้มีพฤติการณ์หลบหนี พร้อมปรับนายประกันเต็มจำนวน 1 ล้านบาท นัดฟังคำพิพากษาอีกครั้ง 11 ต.ค.นี้

เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ เบิกตัว ด.ต.อังคาร คำมูลนา อายุ 48 ปี, ด.ต.สุดธินัน โนนทิง อายุ 43 ปี และ ด.ต.พรรณศิลป์ อุปนันท์ อายุ 42 ปี ผบ.หมู่ ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาในความผิดฐานย้ายศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน" จากเรือนจำกลางบางขวางมายังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อฟังคำพิพากษาฎีกาในคดีร่วมกันเจตนาฆ่า นายเกียรติศักดิ์ ถิตย์บุญครอง อายุ 17 ปี

ซึ่งคดีนี้ เกิดขึ้น ระหว่างวันที่ 22- 23 ก.ค. 47 ด.ต.อังคาร , ด.ต.สุดธินันท์ , ด.ต.พรรณศิลป์ และ พ.ต.ท.สุมิตร นันท์สถิต อายุ 51 ปี อดีต รองผู้กำกับการ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ร่วมกันฆ่านายเกียรติศักดิ์ ถิตย์บุญครอง อายุ 17 ปีเศษ ผู้ต้องหาคดีลักรถ จยย. ขณะนำตัวออกจากสภ.เมืองกาฬสินธุ์ ด้วยการบีบรัดคอจนเสียชีวิต จากนั้นจึงร่วมกันปิดบังเหตุการตายโดยย้ายศพผู้ตายจากท้องที่เกิดเหตุไปแขวนคอไว้ที่กระท่อมนาบ้านบึงโดน ม. 5 ต.แสนชาติ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด โดย พ.ต.ท.สำเภา อินดี อดีตสารวัตรปราบปราม สภ.เมืองกาฬสินธุ์ , พ.ต.อ.มนตรี ศรีบุญลือ อดีตผู้กำกับการ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และ พ.ต.ท.สุมิตร ได้ร่วมกันข่มขู่พยานเพื่อให้การอันเป็นเท็จ

ออกหมายจับ อดีตผกก. เมืองกาฬสินธุ์ เบี้ยวนัดฟังฏีกา

โดย จำเลยทั้งหกให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2555 ให้ประหารชีวิตด.ต.อังคาร , ด.ต.สุดธินันท์ , ด.ต.พรรณศิลป์ จำเลยที่ 1 - 3 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ และย้ายศพเพื่อปิดบังสาเหตุการตาย ส่วนพ.ต.ท.สุมิตร จำเลยที่ 6 ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ ขณะที่พ.ต.อ.มนตรี ลงโทษจำคุก 7 ปี ฐานเป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญากระทำการในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบฯ และให้ยกฟ้อง พ.ต.อ.สำเภา จำเลยที่ 4

ออกหมายจับ อดีตผกก. เมืองกาฬสินธุ์ เบี้ยวนัดฟังฏีกา

ขณะที่ ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนให้ จำเลยที่ 1-3 มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ และย้ายศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิตจำเลยที่ 1-3 นั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย ให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 1-3 แต่คำให้การของจำเลยที่ 2 มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 2 ไว้ 50 ปี และพิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ 4 มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ ลงโทษประหารชีวิต แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ลดโทษ 1ใน3 คงจำคุกจำเลยที่ 4 ไว้ตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่ 5-6 มีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญากระทำการในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบฯ แต่ที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 7 ปีนั้น เห็นว่า หนักเกินไป จึงพิพากษาแก้ ให้ลงโทษจำคุก จำเลยที่ 5-6 ไว้คนละ 5 ปี

ออกหมายจับ อดีตผกก. เมืองกาฬสินธุ์ เบี้ยวนัดฟังฏีกา

ซึ่งอัยการโจทก์ โจทก์ร่วม และจำเลยต่างยื่นฎีกา กระทั่งศาลนัดฟังคำสั่งวันนี้ แต่เมื่อถึงเวลา ปรากฏว่า พ.ต.อ.มนตรี จำเลยที่5 ที่ได้รับการประกันตัว และนายประกันไม่มาศาล ศาลได้สอบถามทนายความแล้ว ทราบว่า ไม่สามารถติดต่อกับจำเลยที่ 5 ได้

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พ.ต.อ.มนตรี จำเลยที่ 5 ทราบนัดโดยชอบแล้ว แต่ไม่มาศาล ถือว่ามีพฤติการณ์หลบหนี ให้ออกหมายจับ ปรับนายประกันเต็มตา มจำนวน 1 ล้านบาท และนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาอีกครั้งวันที่ 11 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

ทั้งนี้มีรายงานว่า มีบรรดาญาติ ผู้เสียชีวิต และญาติฝ่ายจำเลยเดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาพอสมควร แต่เมื่อศาลมีคำสั่งเลื่อนอ่านคำพิพากษาฎีกา ออกไปเป็นวันที่ 11 ต.ค. ทุกคนต่างแยกย้ายกันเดินทางกลับไป

related