ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เตรียมแถลงปิดคดีสาวชาวอังกฤษ อ้างถูกข่มขืนบนเกาะเต่า เช้าวันนี้ หลังไม่พบพยานหลักฐานใหม่ รวมถึงคราบอสุจิบนเสื้อผ้าผู้เสียหาย ตามคำกล่าวอ้าง
ถือเป็นหนึ่งในคดีที่คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก สำหรับคดีหญิงสาวชาวอังกฤษ อายุ 19 ปี ที่อ้างว่า ถูกคนร้ายมอมยาและข่มขืน พร้อมลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือ บนเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ตำรวจภูธรเกาะพะงัน ไม่รับแจ้งความในกรณีถูกข่มขืน เนื่องจากอยู่นอกเขตรับผิดชอบ เหตุเกิดเมื่อช่วงระหว่างวันที่ 25-26 มิถุนายนที่ผ่านมา
กระทั่งผู้เสียหาย กลับประเทศอังกฤษ และให้ข้อมูลสื่อท้องถิ่น ที่นำไปเทียบเคียงคดีฆ่าข่มขืน 2 นักท่องเที่ยวอังกฤษ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว จนตกเป็นข่าวใหญ่ในเวลาต่อมา ทำให้ พลตำรวจตรี-สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ขณะนั้นเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เข้าไปตรวจสอบ ก่อนเปิดเผยทำนองว่า กรณีผู้เสียหายอ้างถูกข่มขืน เป็นการคิดเรื่องขึ้นมาเอง ส่งผลให้สมาชิกสังคมออนไลน์บางกลุ่ม เช่น เพจเฟซบุ๊ก CSI LA แสดงความไม่พอใจ
ขณะที่หญิงชาวอังกฤษ ให้สัมภาษณ์เว็บไซต์-เดอะ ไทม์ส โจมตีตำรวจไทยว่า ทำลายความน่าเชื่อถือของตนเอง และไม่เคยเข้ามาช่วยเหลือ หรือตรวจสอบหลักฐานตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ สุดท้าย พลตำรวจตรี-สรุเชษฐ์ ส่งพนักงานสอบสวนไปยังอังกฤษ เพื่อสอบปากคำผู้เสียหาย และตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่เพิ่งเดินทางกลับถึงไทย เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมนั้น
ล่าสุด พลตำรวจตรี-สรุเชษฐ์ ยืนยันว่า เวลา 10.00 น.วันนี้ (16 ต.ค.) พลตำรวจเอก-จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชากาตำรวจแห่งชาติ จะแถลงปิดคดีด้วยตัวเอง เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานใหม่ และไม่พบคราบอสุจิบนเสื้อผ้าของผู้เสียหาย ตามคำกล่าวอ้าง