เปิดภาพวงจรปิด รพ.ยันบุรุษพยาบาล ไม่ได้ชกหน้าคนไข้ ด้านญาติยันต้องลงโทษ

จาก กรณีที่ น.ส.ศรินทิพย์ อิ่มใจ อายุ 45 ปี ลูกบุญธรรม ของนายพินันท์ ประเคนทอง อายุ 65 ปี ผู้ป่วยโรคเนื้องอกในสมอง ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้เข้าแจ้งความกับ ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อเอาผิดกับบุรุษพยาบาลของโรงพยาบาลชื่อดังใน จ. ขอนแก่น หลังพบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้องฉุกเฉิน ในลักษณะเหมือนกับการชกใบหน้าของผู้ป่วย ก่อนจะบังคับให้ผู้ป่วยนอนลง

ล่าสุด ช่วงเย็นวารนี้ (7 ธ.ค. ) ที่โรงพยาบาลขอนแก่น น.ส.ศรินทิพย์ พร้อมด้วยญาติ ได้เดินทางเข้าพบ นายแพทย์ ชาญชัย จัทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น โดยมีคณะผู้บริหารโรงพยาบาล และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกันตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบในช่วงขณะเกิดเหตุ ตั้งแต่เวลาประมาณ 00.15 น. ของวันที่ 28 พ.ย.ต่อเนื่องถึงวันที่ 29 พ.ย.2561

ซึ่งปรากฏภาพขณะที่ผู้ป่วย ขณะพยายามลุกขึ้นและพลัดตกเตียง กลุ่มเจ้าหน้าที่ที่นั่งอยู่จึงรีบเข้าไปช่วยพยุง และภาพขณะที่ผู้ป่วยพยายามจะลุกขึ้นอีกครั้ง แต่บุรุษพยาบาลเข้าไปห้าม ซึ่งหลังจากที่ทุกคนได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดร่วมกัน ก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้ โดยทางโรงพยาบาลขอนแก่น ยังคงยืนยันว่าไม่ได้เป็นการชกทำร้ายร่างกาย แต่บุรุษพยาบาลได้ไปจับเอามือของผู้ป่วยที่กำลังจับศีรษะออก และให้นอนลง ก่อนจะทำการมัดมือผู้ป่วยไว้กับเตียงให้แน่นขึ้น ส่วนด้านญาติผู้ป่วยยังยืนยันว่าในภาพเป็นการเหวี่ยงมือเข้าไปที่ใบหน้าของผู้ป่วยและเป็นการทำร้ายร่างกายก่อนจะผลักอกผู้ป่วยลงและชี้หน้าด่าทอ

น.ส.ศรินทิพย์ กล่าวว่า ยังคงยืนยันคำเดิมว่าต้องการให้ทางโรงพยาบาลขอนแก่น ดำเนินการลงโทษบุรุษพยาบาล ซึ่งหากบุรุษพยาบาลคนดังกล่าวออกมายอมรับผิดและขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป ญาติๆก็พร้อมที่จะเจรจายอมความ แต่หากยังยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายและไม่มีการลงโทษ ทางญาติก็จะดำเนินการตามกฎหมายจนถึงที่สุด

ด้าน น.พ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการ รพ.ขอนแก่น กล่าวว่า โรงพยาบาลยืนยันว่าไม่ได้เป็นการทำร้ายร่างกายผู้ป่วย โดยมุมกล้องอาจจะทำให้ทางญาติๆเข้าใจผิด คิดว่าเป็นการทำรายร่างกาย แต่ขอยอมรับในเรื่องที่ผู้ป่วยตกเตียงว่าเป็นความผิดพลาดของทางโรงพยาบาล และการชี้หน้าผู้ป่วยก็ถือว่าไม่เหมาะสม แต่ก็คงไม่ถึงขั้นร้ายแรงจนผิดวินัยทางราชการ ส่วนคำพูดที่พูดกับคนไข้อาจจะพูดเป็นภาษาอีสานทำให้สำเนียงฮ้วนๆ ทำให้คนไข้เข้าใจผิดได้ จากนี้ก็จะเข้มงวดในเรื่องของการบริการ และความปลอดภัยของผู้ป่วยในขณะที่เข้ารับการรักษามากขึ้น

ด้าน ร.ต.อ.ชัยยุทธ จันทร์แปลง สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า คดีความที่สามารถยอมความกันได้ แต่หากทั้งสองฝ่ายยังยืนยันที่จะเอาเรื่อง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ทำการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปสู่กระบวนการตามกฎหมายในชั้นศาลต่อไป โดยในเบื้องต้นจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดอาจเป็นมุมกล้องที่ยังไม่ชัดเจนจึงทำให้ในวันนี้ทั้งสองฝ่ายจึงยังไม่สามารถตกลงกันได้