เกิดเหตุพนักงานรักษาความปลอดภัย แทงรปภ.อีกคนเสียชีวิต ขณะเข้าเวรคู่กัน คาดว่าทะเลาะกันเรื่องการทำงาน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกแทงเสียชีวิต ที่บริษัทขายอุปกรณ์ทางการแพทย์และเคมีภัณฑ์ บนถนนราชดำเนินกลาง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร จึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมอาสาสมัครป่อเต็กตึ๊ง พบศพ นายประยงค์ โปร่งจิตร พนักงานรักษาความปลอดภัยอายุ 48 ปี ถูกแทง 2 แผล เข้าที่บริเวณหน้าอกและสะโพก เสียชีวิต ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายสนาม กุลสอนนาน อายุประมาณ 45 ปี รอมอบตัวกับตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามหัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยบอกว่า ทั้งนายประยงค์ผู้ตาย และนายสนามผู้ก่อเหตุเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยที่อยู่เวรเข้าคู่กันในคืนเกิดเหตุ โดยผู้ตายมาทำงานได้หนึ่งเดือน ส่วนนายสนามพึ่งมาทำงานได้เพียง 10 วัน ขณะเกิดเหตุนายประยงค์ผู้ตายได้โทรศัพท์มาหา บอกว่าถูกแทงเข้าที่บริเวณหน้าอกก่อนที่สายจะตัดไป จากนั้นตนเองได้พยายามโทรกลับไปหลายครั้ง กระทั่งนายสนามผู้ก่อเหตุรับสายและยอมรับว่าเป็นคนแทงนายประยงค์ ตนจึงรีบมาที่เกิดเหตุ พบว่านายประยงค์เสียชีวิตแล้ว
ส่วนนายสนามกำลังทำความสะอาดที่เกิดเหตุโดยอ้างว่ากลัวนายจ้างจะไม่พอใจที่ทำสกปรก
ด้านหัวหน้าพักงานรักษาความปลอดภัย บอกอีกว่า ปกติทั้งคู่จะขอเวรเข้าคู่กันและไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันมาก่อนส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากเกี่ยงกันทำงาน
อีกหนึ่งเหตุการณ์กลางดึกเมื่อคืนนี้ พ.ต.ท.อาทิตย์ ศรีสุพจน์ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทุ่งครุ รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทมีผู้เสียชีวิต จุดเกิดเหตุภายในห้องเช่าแห่งหนึ่ง ย่านซอยประชาอุทิศ64 เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร จึงเดินเข้าตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช
พบผู้บาดเจ็บ 1 ราย เป็นหญิง สวมใส่ชุดคลุมท้อง นอนพิงผนังหน้าห้อง หายใจรวยริน เจ้าหน้าที่อาสาสมัครเร่งให้การช่วยเหลือแต่ไม่ทัน เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อ น.ส.เอ มียะ ทู อายุ 29 ปี พบบาดแผล ถูกแทงที่หน้าอก 1 แผล และกลางหลัง 1 แผล เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 1 ราย เป็นชาย ซึ่งเป็นสามีของผู้เสียชีวิต โดยผู้ก่อเหตุ ชื่อนายเยสทู อายุ 27 ปี ประกอบอาชีพ เด็กเสริฟภายในร้านอาหาร
สอบถามเพื่อนบ้านได้ความว่า โดยปรกติ ผัวเมียคู่นี้มักจะทะเลาะกันประจำอยู่แล้ว แต่ในวันเกิดเหตุฝ่ายเมียพึ่งกลับจากประเทศพม่า ก็ปรากฏว่ามีปากเสียงกันอีก จึงทำให้เกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น
ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวน ได้ควบคุมตัว ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นสามี ไปทำการสอบสวนหาสาเหตุ ว่าทำไมถึงก่อเหตุในครั้งนี้ ต่อไป