อัยการไทยชี้ คดีฮาคีม เข้าหลักเกณฑ์ส่งผู้ร้ายข้ามแดนกลับบาห์เรน เหตุเพราะเป็นคดีอาญาไม่ใช่เรื่องทางการเมือง ขณะที่กรมประชาสัมพันธ์ ยืนยันการจับกุมอดีตนักฟุตบอลบาห์เรนเป็นไปตามหมายจับที่ออกโดยออสเตรเลีย
นายชัชชม อรรฆภิญญ์ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีการพิจารณาส่งตัว นายฮาคีม กลับประเทศบาห์เรนในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ว่า ที่ผ่านมาอัยการสำนักงานต่างประเทศ ได้พิจารณาเอกสารที่ทางการบาห์เรนส่งมา เพื่อขอตัวนายฮาคีมกลับไปดำเนินคดี
โดยเป็นคดีอาญา คือ ข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ ไม่ใช่เรื่องทางการเมือง อัยการสำนักงานต่างประเทศ จึงรับไว้พิจารณาดำเนินการ เนื่องจากเข้าหลักเกณฑ์ที่สามารถทำได้
ส่วนที่ทางการออสเตรเลีย เคยให้สถานะผู้ลี้ภัยนายฮาคีม เนื่องจากมองว่าเข้าเกณฑ์การเมือง เชื้อชาติ หรือศาสนา นั้น ถือเป็นการพิจารณาของทางการออสเตรเลีย ที่เป็นคนละส่วนกัน
ขณะที่ เฟซบุ๊กกรมประชาสัมพันธ์ ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับข้อเท็จจริง และท่าทีของทางการไทยต่อกรณีนี้ โดยระบุ ประเทศไทยไม่รู้จัก และไม่มีอคติกับนายฮาคีมมาก่อน
การจับกุมเกิดจากการแจ้งเตือนเรื่องหมายแดง หรือคำขอให้ค้นหา และควบคุมตัวบุคคลเพื่อรอการส่งตัวข้ามแดน จากอินเตอร์โพลของทางออสเตรเลียเอง ทำให้ตอนนี้เรื่องอยู่ในกระบวนการของศาล รัฐบาลไม่สามารถแทรกแซงได้
พร้อมยืนยัน อย่าเพิ่งสรุปว่าทางการไทยจะส่งตัวนายฮาคีมให้กับบาห์เรน โดยทุกฝ่ายต้องส่งข้อมูลเอกสารหลักฐานให้กับศาลไทยพิจารณา ส่วนอีกทางหนึ่งคือออสเตรเลีย และบาห์เรนต้องพูดคุยหาทางออกร่วมกันด้วยความจริงใจ โดยประเทศไทยยินดีพร้อมช่วยส่งเสริม
พันตำรวจเอก ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีที่มีการวิจารณ์ภาพที่นายฮาคีม ถูกใส่ตรวน ขณะไปขึ้นศาลเพื่อขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน โดยชี้แจงว่าสิ่งที่สวมเป็นกุญแจเท้าไม่ใช่ตรวน และเป็นไประเบียบปฎิบัติปกติของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ในการพาผู้ต้องขังไปนอกเรือนจำ
โดยผู้ควบคุมเห็นแล้วว่าผู้ต้องขังรายนี้เป็นที่สนใจของสังคม และมีความเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงพิจารณาเห็นสมควรใส่กุญแจข้อเท้า ซึ่งเป็นเครื่องพันธนาการอย่างหนึ่งตามกฎหมาย