"บิ๊กโจ๊ก" เร่งประสาน "กต. - อสส." ขอตัวมือปลอมราชกิจจาฯ กลับมาดำเนินคดี

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าในการ ติดตามตัวผู้ปลอมแปลงราชกิจจานุเบกษา เกี่ยวกับการโยกย้ายผู้บัญชาการเหล่าทัพ ว่า ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งมีทั้งคนไทยและคนต่างชาติ แต่มีจำนวนไม่มาก ซึ่งทั้งหมดอยู่ในประเทศแถบยุโรป แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้

โดยอยู่ระหว่างประสานกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อขออนุมัติออกหมายจับผู้ร้ายข้ามแดนและส่งตัวกลับมาดำเนินคดี แต่ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ส่วนจะเชื่อมโยงกลุ่มการเมืองใดหรือไม่ ต้องรอให้ได้ตัวก่อน

ขณะที่มีรายงานว่า กลุ่มบุคคลที่ปลอมแปลงราชกิจจาฯ เป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ทำการปลอมแปลงข่าวลวง กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการกองทัพบก(ผบ.ทบ.) เรื่องงบประมาณกองทัพและการเกณฑ์ทหาร ซึ่งฝ่ายกฎหมาย คสช. ได้แจ้งความไว้แล้ว ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) ไว้แล้ววานนี้

นอกจากนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยังเปิดเผยถึงความร่วมมือระหว่าง กสทช. จัดทำวอร์รูม เฝ้าระวังการใช้สื่อโซเชียลในทางที่ผิด โดยเฉพาะ ช่วงการเลือกตั้ง ที่มีการใช้สื่อโซเชียลดำเนินการทางการเมืองมากขึ้น แต่ไม่ได้จับตาเพจการเมืองใดเป็นพิเศษ เพราะหากมีการกระทำผิดเกิดขึ้น ก็จะปรากฏชัดอยู่แล้ว โดยย้ำเตือนไปยังผู้ใช้สื่อโซเชียลต่าง ๆ ระมัดระวังการโพสต์หรือแชร์ข้อมูล ต้องไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อบุคคลอื่น ไม่ว่าจะเป็นการทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง หรือทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีการจับกุมผู้กระทำผิดแล้วกว่า 50 ราย แม้ยังไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง แต่ส่วนใหญ่เป็นการโพสต์ข่าวปลอมข่าวลือสร้างความตื่นตระหนก โดยยืนยันว่า แม้จะกระทำผิดในต่างแดน ก็สามารถดำเนินคดีได้