svasdssvasds

"บิ๊กโจ๊ก" สั่งปูพรม 82 จุด ล้างลิสซิ่งเถื่อน - จับนายทุกเงินกู้นอกระบบ ยึดทรัพย์ 900 กว่าล้านบาท

"บิ๊กโจ๊ก" สั่งปูพรม 82 จุด ล้างลิสซิ่งเถื่อน - จับนายทุกเงินกู้นอกระบบ ยึดทรัพย์ 900 กว่าล้านบาท

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ สนธิกำลังร่วมหลายหน่วยงาน ลุยกวาดเงินทุนนอกระบบ ล้างลิสซิ่งเถื่อนผิด กม.ปูพรม 82 จุด ใน 11 จังหวัด ยึดทรัพย์กว่า972.9 ล้าน พบอุบายทำสัญญาที่ดินมิชอบ-ปล่อยดอกโหด

วันนี้ (23 ก.พ.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) แถลงผลการระดมกวาดล้างเงินกู้นอกระบบ ตามยุทธการ ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองให้น่าอยู่ ทวงคืนความเป็นธรรมให้ลูกหนี้เงินกู้นอกระบบ หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่าถูกนายทุนเงินกู้รายใหญ่ปล่อยเงินกู้อัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

ปฎิบัติการครั้งนี้ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่วานนี้ต่อเนื่องเช้าวันนี้ โดยเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังปูพรม 82 จุดใน 11 จังหวัด ประกอบไปด้วย กรุงเทพฯ, ชลบุรี,เชียงใหม่, เชียงราย, ลำปาง, ลำพูน, พะเยา, แพร่, น่าน, แม่ฮ่องสอน, และ อุดรธานี จับกุมนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหด 14 ราย จาก 55 เครือข่าย โดยเน้นหนักไปในพื้นที่เชียงใหม่ ที่มีการตรวจค้นนายทุนเครือข่ายบริษัท เอ็ม.อี. ลีสซิ่ง จำกัด ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 360 ม.1 ตำบลและอำเภอสันทราย และบริษัท สินรุ่งเรือง จำกัด ใน อ.เมืองเชียงใหม่ ยึดอายัดทรัพย์สิน มูลค่า 23 ล้านบาท ประกอบด้วย อาคารพาณิชย์ จำนวน3 คูหา, รถยนต์ จำนวน 2คัน ตรวจยึดโฉนดที่ดิน จำนวน 130 ฉบับ เนื้อที่ 136 ไร่ 1 งาน 28 ตรว. มูลค่า 136 ล้านบาท นอกจากนี้ได้ขยายผลยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่ายเซนลิสซิ่ง ในพื้นที่จ.แพร่ จ.พะเยา และอุดรธานี โดยตรวจยึดอายัดทรัพย์หลายรายการ มูลค่ากว่า 672 ล้านบาท หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้จับกุมเครือข่ายเซนลิสซิ่งไปแล้วส่วนหนึ่ง

"บิ๊กโจ๊ก" สั่งปูพรม 82 จุด ล้างลิสซิ่งเถื่อน - จับนายทุกเงินกู้นอกระบบ ยึดทรัพย์ 900 กว่าล้านบาท

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ถือเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญ เร่งรัดขับเคลื่อนแก้ไข จึงได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและดำเนินการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างจริงจังจะเห็นได้ว่าปัญหาหนี้นอกระบบได้สร้างปัญหาก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม โฉนดที่ดินตกอยู่ในกลุ่มนายทุนเพียงไม่กี่คน หนำซ้ำยังเอาเปรียบลูกหนี้อีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการปราบปรามทั่วประเทศบังคับใช้กฎหมายเพื่อคืนที่ดินให้กับประชาชนที่ถูกนายทุนเอารัดเอาเปรียบ

อย่างไรก็ตามจากการปฏิบัติการครั้งนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 14 คน ประกอบด้วย นายวรรษา เจนติยานุรักษ์, นายวินัย สิงห์เผือก นายธัญยบูรณ์ หอมกลิ่น, นายนิรุต กมลมาลย์, นายอิทธิพัทธ์ สังข์ทอง, นายทวีหรือหมี คำเสียง, นายหัสชัย โพนปลัด,นายวุฒินันท์ ขอเหนี่ยวกลาง, นายชุติเทพ สุโพธิ์, นายเจษฎา ศรีสกุล, น.ส.วลัยพร ประสพ โดยเบื้องต้นแจ้งข้อหา “อั้งยี่และร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด” และนางพัชริน แต้กุล, นายณัฐพล อยู่สำราญ นายพีระ ปฏิกรณ์ ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันเป็นการอำพรางให้กู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด” พร้อมยึดอายัดทรัพย์สิน ผู้ต้องหา มูลค่า 644.9 ล้านบาท ประกอบด้วย อาคารพาณิชย์และที่ทำการบริษัท จำนวน 6 แห่ง, โรงแรมจำนวน 4 แห่ง,ร้านอาคารสถานประกอบการจำนวน 2 แห่ง ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 1 แปลง รถยนต์ 25 คัน ตรวจยึดโฉนดที่ดิน จำนวน 197 ฉบับ เนื้อที่ 220 ไร่ มูลค่า 218 ล้านบาทพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องทางคดีอีกหลายรายการ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 972.9 ล้านบาท

"บิ๊กโจ๊ก" สั่งปูพรม 82 จุด ล้างลิสซิ่งเถื่อน - จับนายทุกเงินกู้นอกระบบ ยึดทรัพย์ 900 กว่าล้านบาท

พฤติกรรมของนายทุนส่วนใหญ่ไม่ต่างจากเดิมมีการทำนิติกรรมอำพราง ให้ชาวบ้านเซ็นชื่อในกระดาษเปล่า อีกทั้งมีการเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยเกินกว่ากฏหมายกำหนด ซึ่งในรายของนายทุนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พบว่ามีการเปิดกิจการธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล หรือธุรกิจลิสซิ่ง ซึ่งมีทั้งเปิดโดยถูกกฎหมายและผิดกฎหมายมีการกระทำผิดเงื่อนไขตามตกลง โดยมีการเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ5 ต่อเดือน หรือร้อยละ 60 ต่อปี ซึ่งนายทุนให้เอาโฉนดที่ดินมาจำนองเพื่อค้ำประกันเงินกู้ ในส่วนนี้ถือว่าผิดกฏหมายเรียกดอกเบี้ยเกินกว่ากำหนด ทั้งนี้ในเชียงใหม่จับกุมนายทุนเครือข่ายบริษัท เอ็ม.อี. ลีสซิ่ง จำกัด ซึ่งมีสาขาย่อยกว่า 10 สาขา โดยมีนายพีระ ปฏิกรณ์ เป็นกรรมการบริษัท

ในส่วนของจ.แพร่ จ.พะเยา และอุดรธานี เป็นการขยายผลเครือข่ายของเซนลิสซิ่ง ซึ่งนายทุนมีพฤติกรรมรับขายฝากที่ดิน มีสาขาทั่วประเทศ ต่อมาปรากฏว่าที่ดินของชาวบ้านที่นำมาจำนองถูกกรมสรรพากรอายัดไว้เนื่องจากนายทุนมีพฤติกรรมหลบเลี่ยงภาษี ตั้งแต่ปี 2544 หลังถูกสำนักตรวจสอบภาษีอากรกลาง กรมสรรพากรกลาง ประเมินเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง 260 ล้านบาท และมีการฟ้องร้องกัน ภายหลังศาลฎีกาได้พิพากษาให้กรมสรรพากรชนะคดี ทำให้กรมสรรพากรต้องยึดที่ดินกว่า 400 ไร่โดยใช้อำนาจตามม.12 ประมวลรัษฎากร ยึดที่ดินดังกล่าวไว้ ซึ่งปัจจุบันยังมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยกับชาวบ้าน

"บิ๊กโจ๊ก" สั่งปูพรม 82 จุด ล้างลิสซิ่งเถื่อน - จับนายทุกเงินกู้นอกระบบ ยึดทรัพย์ 900 กว่าล้านบาท "บิ๊กโจ๊ก" สั่งปูพรม 82 จุด ล้างลิสซิ่งเถื่อน - จับนายทุกเงินกู้นอกระบบ ยึดทรัพย์ 900 กว่าล้านบาท

แม้ที่ดินถูกสรรพากรอายัดก็ตาม อย่างไรก็ตามบูรณาการหารือแนวทางการกรมสรรพากร และทางดีเอสไอ ในการจะนำที่ดินมาคืนพี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด เนื่องจากสิ่งหนึ่งที่ชาวบ้านกลัวคือที่ดินจะถูกขายทอดตลาด และเกรงว่าที่ดินจะตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น จึงประสานกองทุนยุติธรรมจังหวัด จัดหาทนายความให้คำปรึกษา และต่อสู้คดีทางแพ่ง ,ประสานสถาบันบริหารจัดการที่ดิน องศ์การมหาชน ในการจัดซื้อที่ดินดังกล่าวไว้ก่อน โดยให้กรมสรรพากรให้ถอนอายัดที่ดินดังกล่าว เพื่อที่จะให้คณะทำงานดำเนินการตามแนวทางโดยการยึดอายัดทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดของผู้ต้องเพื่อมาเฉลี่ยทรัพย์คืนเป็นที่ดินให้ชาวบ้าน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะประสานทางกระทรวงการคลังเพิกถอนใบอนุญาตลิสซิ่งที่กระทำผิดเงื่อนไข และปราบปรามลิซซิ่งที่เปิดผิดกฎหมายต่อไป โดยในวันที่ 28 ก.พ.ที่จะถึงนี้ ทางพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำกับดูแลสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานมอบโฉนดคืนให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากหนี้นอกระบบและนายทุนดอกเบี้ยโหด ที่ จ.มหาสารคาม และในวันที่ 16 มี.ค. จะมีการมอบโฉนดคืนให้พี่น้อง ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 8 -9 ต่อไป

"บิ๊กโจ๊ก" สั่งปูพรม 82 จุด ล้างลิสซิ่งเถื่อน - จับนายทุกเงินกู้นอกระบบ ยึดทรัพย์ 900 กว่าล้านบาท

related