ตร.จ่อออกหมายจับ "แก๊งโจ๋ถล่มวัดสิงห์" เพิ่ม คาดโดนข้อหาซ่องโจร - ความผิดต่อเสรีภาพด้วย

วันนี้ (25 ก.พ.) เวลา 13.30 น. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาที่ สน.บางขุนเทียน เพื่อประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดี กลุ่มวัยรุ่นกว่า 20 คน บุกเข้าไปภายในโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ถนนเอกชัย ซอย 43 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. และทำร้ายร่างกายคณะครูอาจารย์ รปภ. และเด็กนักเรียน ที่กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการสอบ สนามสอบ GAT/PAT ประจำปีการศึกษา 2562

โดยภายหลังการประชุม พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนดูงานด้านสืบสวน ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางนายกรัฐมนตรีให้ความสนใจ และทางพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งกำชับให้ลงมาดูแลเรื่องนี้ จึงเรียกประชุมเพื่อวางแนวทางการสืบสวนติดตามผู้ที่ร่วมกันก่อเหตุ จากการพูดคุยกับทีมพนักงานสืบสวนสอบสวนคาดว่าจะมีการขอออกหมายจับเพิ่มเติมอีกจำนวน 5-6 คน ซึ่งจะต้องเร่งรัดขยายผลในการจับกุม ผู้ต้องหาที่มามอบตัวได้ให้การที่เป็นประโยชน์กับคดี เบื้องต้นแจ้งข้อหาเรื่องการบุกรุก และได้พิจารณาหารือกันเรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมองเห็นว่าเรื่องนี้เป็นภัยสังคม และเป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชนที่สุจริต จึงไม่อยากให้คนที่เป็นอันตรายมาปะปนอยู่ในสังคม เราจึงพิจารณาทุกข้อหาที่ทำได้ และได้พิจารณาข้อกฎหมายเรื่อง ซ่องโจรและความผิดต่อเสรีภาพเพิ่มเติมด้วย ซึ่งจะต้องดูพฤติการณ์ในการกระทำความผิด ทางพนักงานสอบสวนจะได้พิจารณาเป็นรายละเอียดไปว่าจะทำได้หรือไม่ได้มากน้อยแค่ไหน ยืนยันว่าจะทำทุกเรื่องทุกประเด็นให้ครบถ้วน

ส่วนเรื่องการลวมลามนักเรียนหญิงนั้น ทางพล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า อันนั้นเป็นความผิดเพิ่มขึ้นไปอีก ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนสอบให้ละเอียด โดยเฉพาะผู้เสียหายถึงวันนี้ก็ยังขาดอีกจำนวนมาก ได้ติดตามทั้งที่ไปปรากฎข้อความตามโซเชียล ทั้งในห้องสอบทั้งหมด ไม่ว่าจะมีการไปกระทำหรือไม่ก็ตาม ให้สอบให้ปรากฎข้อเท็จจริง ตอนนี้มีอาคาร 2 อาคาร คืออาคาร 1 และอาคาร 3 มีห้องสอบ 14 ห้อง และมีผู้เสียหายอีกหลายคนที่จะต้องไปขอข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องการเรียกร้องค่าเสียหายก็อยู่ในประเด็นที่จะต้องถามผู้เสียหายด้วย ที่รัฐจะดำเนินการเรื่องนี้ไปได้พิจารณาถึงข้อกฎหมายเรื่องวิธีการเพื่อความปลอดภัย ตนได้พูดคุยกับทางพนักงานสอบสวนให้ประสานกับพนักงานอัยการ ว่าหลังจากนี้แล้วจะป้องกันคนที่เป็นอันตรายต่อสังคมได้อย่างไร ซึ่งอาจจะมีวิธีการเรื่องการสั่งห้ามเข้าพื้นที่ ซึ่งจะต้องดูข้อเท็จจริงของพฤติการณ์ ทั้งนี้ยืนยันว่าจะทำทุกอย่างภายใต้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่เรามี

พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ทางพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการให้ประกันตัวเพราะเห็นว่าอาจไปทำการข่มขู่พยาน และอาจไปทำให้เสียรูปคดี ทั้งนี้ขอเรียนว่าการบุกรุกเข้าไปก็ผิดแล้ว และมีการไปใช้กำลังก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งก็แจ้งเพิ่มไป บางครั้งการทำผิดไม่จำเป็นต้องลงมือทุกคน มีการแบ่งหน้าที่กันทำ หรือการตกลงใจร่วมกันว่าจะใช้กำลังเข้าไปมันก็ผิดแล้ว เพราะฉะนั้นจะผิดมากน้อยทุกอย่างจะดำเนินการหมดทุกเรื่อง

ส่วนกรณีที่มีการพูดถึงการพกพาอาวุธปืนเข้าไปในโรงเรียนนั้น ทางพล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า เป็นข่าวที่ปรากฎ เจ้าหน้าที่ก็ต้องไปพิสูจน์ข้อเท็จจริง ซึ่งตนได้สั่งการไปหมดแล้วว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ทั้งนี้ได้กำชับไปหลายเรื่องซึ่งจะต้องรอดูผลว่าจะได้อะไรเพิ่มเติมบ้าง และคาดว่าจะนำตัวผู้ต้องหาฝากขังในวันพรุ่งนี้(26 ก.พ.)