ศรีวราห์..สั่งด่วน! เร่งหาตัวมือดีฉกปืนกองสืบอยุธยา ไปขายมากกว่า 10 กระบอก

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา แจ้งความดำเนินคดีเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง หลังตำรวจตรวจพบว่าอาวุธปืน Sigsauer P320 ขนาด9มม.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดซื้อเป็นสวัสดิการให้ข้าราชการตำรวจและหน่วยงานในสังกัดปฎิบัติหน้าที่ หายไปจากห้องเก็บอาวุธปืนของกก.สส.ตร.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ถึง11กระบอก หลังได้รับการสั่งการ พล.ต.ต.โชคชัย ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ภูวดิท ชนะคชภัทร์ รองผบก.ภ.จว.สิงห์บุรี ปรท.รองผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เข้าแจ้งความกับพ.ต.ท.จักรพันธ์ ธูปเตมีย์ สว.สอบสวนสภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อรับเรื่องทำการสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำผิดมาดำเนืนคดีตามกฎหมาย

คดีนี้เริ่มต้นจากเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.วันที่ 14 ก.พ.2562 ตำรวจสายตรวจ สน.วังทองหลาง เรียกตรวจค้นรถยนต์ต้องสงสัย ซึ่งมีนายอาทิตย์ อายุ25ปี ขับอยู่บนถนนศรีวราทาวน์อินทาวน์ ตัดถนนประดิษฐ์มนูธรรม เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าว พบปืน 2 กระบอกอยู่ภายในรถ โดยกระบอกแรกเป็นปืนลูกโม่ .38 ยี่ห้อเทารัส1 พร้อมกระสุน 6 นัด ส่วนอีกกระบอกเป็นปืน Sigsauer P320 ขนาด 9 มม.หมายเลขทะเบียนตราโล่ตำรวจพร้อมกระสุน 12 นัด

ตำรวจจึงคุมตัวนายอาทิตย์ มาสอบสวนก่อนจะสารภาพว่าได้ชื้อปืนลูกโม่มาในราคา18,000 บาท ส่วนปืน Sigsauer P320 มีชายชื่ออาร์ม ที่อยู่จ.สุพรรณบุรี นำมาจำนำราคา 20,000 บาท เมื่อตำรวจ สน.วังทองหลาง ตรวจสอบหมายเลขประจำปืน. T60113287 พบว่าเป็นเลขปืนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบให้ตำรวจกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ ทางตำรวจ สน.วังทองหลาง จึงรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น กระทั่งพล.ต.อ.ศรีวราห์ทราบเรื่อง สั่งให้ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบคลังอาวุธของหน่วยงานดังกล่าว

เมื่อตรวจสอบโดยละเอียดจึงทราบว่าปืนSigsauer P320 ขนาด 9 มม.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สมัย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็น ผบ.ตร.ได้จัดหามาให้เป็นอาวุธประจำหน่วยแทนปืนรุ่นเก่า ได้หายไปอีก 10 กระบอก เมื่อรวมกับปืนที่ตำรวจ สน.วังทองหลางตรวจยึดได้ รวมแล้ว 11 กระบอก ซึ่งเรื่องดังกล่าวทำให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ สั่งการให้พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เร่งดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาหลงโทษตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด และหากตรวจสอบพบว่ามีข้าราชการตำรวจนายใดเข้าไปเกี่ยวข้องให้ดำเนินการลงโทษทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดโดยไม่มีข้อยกเว้น

มีรายงานข่าวแจ้งว่าตามปกติแล้วระเบียบการเบิกจ่ายอาวุธปืนของหน่วยงานตำรวจ จะต้องมีคณะกรรมการอย่างน้อย 3 คน ในการถือกุญแจห้องเก็บอาวุธ แต่แหล่งข่าวแจ้งข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ในห้องทำงานของ กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ไม่ได้มีเฉพาะข้าราชการตำรวจที่ทำงานอยู่ภายในห้อง เพราะมีสายลับคดียาเสพติดเข้าออกที่หน่วยนี้เป็นประจำ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนหาผู้กระทำผิด แหล่งข่าวรายนี้ยังบอกอีกว่าปกติการเบิกอาวุธปืนของตำรวจมักจะหยิบปืนที่วางอยู่ด้านนอกออกมาใช้งานก่อนเสมอ ทำให้ไม่มีการตรวจสอบปืนที่อยู่ด้านในว่ายังอยู่หรือไม่ เพราะขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบนับจำนวนปืนพบว่ามีเฉพาะปืนกับแม็คกาซีนที่บรรจุกระสุนหายไป โดยที่กล่องบรรจุปืนยังอยู่ครบในสภาพเดิม