ตำรวจร่วมกัน ปิดล้อมตรวจค้น ที่พัก ที่กิน ที่เที่ยว โรงเรียนสอนภาษา โรงเรียนเอกชน จำนวน 229 จุดทั่วประเทศ หวังกวาดล้างเครือข่ายผิดกฎหมาย
ที่บริเวณลานหน้าห้างเดอะสตรีท ถนนรัชดา เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 22 มี.ค.พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สตม. ตำรวจบช.ทท. ตำรวจ บช.ปส. ชุดสยบไพรี บช.ก. สน.ห้วยขวาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นที่พัก ที่กิน ที่เที่ยว โรงเรียนสอนภาษา โรงเรียนเอกชน จำนวน 229 จุดทั่วประเทศ โดยสามารถจับกุมชาวต่างชาติ 490 ราย ที่กระทำผิด over stay หลบหนีเข้าเมือง และ พ.ร.ก.การทำงานของคนต่างด้าว
พล.ต.ต.อิทธิพล กล่าวว่า การปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจากตามนโยบายของรัฐบาล ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติกวดขันจับกุมกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศโดยแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว เพื่อเข้ามาก่ออาชญากรรมข้ามชาติและอาชญากรรมที่กระทบกับความมั่นคงส่งผลต่อภาพลักษณ์และการท่องเที่ยวของประเทศไทย เช่น กลุ่มเครือข่ายหลอกลวงแต่งงาน (Romance Scam) กลุ่มเครือข่ายผลิตและปลอมบัตรเครดิต (Skimming) กลุ่มชาวต่างชาติที่ตั้งตัวเป็นกลุ่มกระทำผิดอาชญากรรมต่างๆ และยาเสพติด รวมถึงกลุ่มชาวต่างชาติพักอาศัยอยู่ในประเทศโดยการอนุญาตสิ้นสุดลงซึ่งในปัจจุบันได้พัฒนาวิธีการกระทำความผิดให้มีความซับซ้อน และหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสถานีปฏิบัติการออกระดมกวาดล้างอาชญากรรม และบูรณาการกำลังจากหน่วยงานภาครัฐหลายฝ่าย โดยมีผลการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย จำนวน 229 เป้าหมาย ทั่วประเทศ สามารถทำการจับกุมผู้ต้องหาได้ ทั้งหมด 490 ราย มีการจับกุมผู้ต้องหา ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด”จำนวน 14 ราย (สัญชาติอินเดีย 3 ราย, เวียดนาม 3 ราย, ลาว 2 ราย, แคเมอรูน 2 ราย, เมียนมา 1 ราย, กัมพูชา 1 ราย, สวิสเซอร์แลนด์ 1 ราย, อเมริกา 1 ราย)
จับกุมข้อหา “เป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต”จำนวน 338 ราย (สัญชาติเมียนมา 141 ราย, ลาว 110 ราย, กัมพูชา 85 ราย, เวียดนาม 1 ราย, อินเดีย 1 ราย) ส่วยการจับกุมข้อหาอื่นๆ อีกจำนวน 138 ราย (สัญชาติไทย 83 ราย, เมียนมา 27 ราย, กัมพูชา 9 ราย, ลาว 4 ราย, อินเดีย 3 ราย, ไทย 2 ราย, จีน 2 ราย, เวียดนาม 2 ราย, รัสเซีย 2 ราย, ฝรั่งเศส 1 ราย, โปแลนด์ 1 ราย, เกาหลีใต้ 1 ราย, แคนาดา 1 ราย)
โดยแบ่งเป็นข้อหา เป็นผู้ครอบครองเคหสถาน รับคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ราชอาณาจักร เป็นการชั่วคราวเข้าพักอาศัย แล้วไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงาน ภายใน 24 ชั่วโมง จำนวน 70 ราย เป็นคนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ไม่พักอาศัย ณ ที่ที่ได้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จำนวน 20 ราย ข้อหาตาม พรก.การทำงานของคนต่างด้าว จำนวน 16 ราย และข้อหาอื่นๆ จำนวน 32 ราย
อย่างไรก็ตามในการตรวจสอบครั้งนี้ ได้ทำการตรวจสอบเป้าหมายจำนวนทั้งสิ้น 229 เป้าหมาย แบ่งเป็นเป้าหมาย บริษัทร้านค้า 68 เป้าเหมาย, สถานบริการ 6 เป้าหมาย, โรงแรม หอพัก ที่อยู่อาศัย 62 เป้าหมาย และ เป้าหมายอื่นๆ จำนวน 93 เป้าหมายทั้งนี้รวมยุทธการ 46 ครั้ง ตรวจค้นเป้าหมาย 7,145 เป้าหมาย จับกุมผู้กระทำความผิดได้ ทั้งหมด 8,400 ราย