svasdssvasds

มอบตัวแล้วมือฆ่ายัดถังฝังดินหนีกบดานพัทลุง - พ่อคนตายลั่นขอให้โทษประหารชีวิต

ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th

มีรายงานว่า ตำรวจกองปราบปรามเตรียมนำตัวนายประยูน แก้วพยศ อายุ 48 ปี นายจ้างที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่า อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายอัชฌา หรือขิก โดยควบคุมตัวได้จาก จ.พัทลุง ก่อนเตรียมนำตัว ขึ้นเครื่องบินจาก จ.นครศรีธรรมราช เดินทางมายังกรุงเทพฯ ก่อนนำตัวเข้าพบพล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินการสอบปากคำต่อไป

ทั้งนี้ คดีพบศพนายอัชฌา หรือขิก หนูปทุม อายุ 38 ปี ชาว จ.พัทลุง ถูกฆ่าโบกปูนใส่ในถังน้ำมัน ถูกฝังดินอยู่หลังร้านอาหารพหลวิวย่านเกษตรนวมินทร์ ภายหลังเมื่อคืนที่ผ่านมา น.ส.อรอุมา หนูปทุม น้องสาวของนายอัชฌา ได้เดินทางมาจากจังหวัดสงขลา เพื่อเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ในวันนี้ตำรวจจึงได้เชิญตัวคนงานก่อสร้างของร้านอาหาร จุดที่ฝังศพ ที่อ้างว่าถูกนายประยูร หรือจุ๊บ แก้วพยศ ใช้ให้ช่วยยกถังน้ำมันไปฝัง มาสอบปากคำในฐานะพยาน รวมถึงพนักงานของร้านวัสดุก่อสร้างบางราย เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาประกอบสำนวน เตรียมขอศาลออกหมายจับในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และซ่อนเร้นอำพรางศพ

ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น ที่สถาบันนิติเวช รพ.ภูมิพล นางบุญมี หนูปทุม อายุ 60 ปี แม่และพ่อผู้ตายพร้อมด้วยภรรยาและลูกพี่ลูกน้อง ได้เดินทางมายังสถาบันนิติเวช เพื่อติดต่อขอรับศพนายอัฌชา เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวบิดาไปเก็บดีเอ็น. เพื่อเปรียบเทียบ กับศพผู้ตายตามขั้นตอน จากนั้นได้ยื่นเอกสารตามขั้นตอนขอรับศพ

มอบตัวแล้วมือฆ่ายัดถังฝังดินหนีกบดานพัทลุง - พ่อคนตายลั่นขอให้โทษประหารชีวิต

ทางด้าน นายสม (นามสมมติ) ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้ตาย กล่าวว่า จะนำศพไปบำเพ็ญกุศที่วัดหาดหาร อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง โดยส่วนตัวแล้ว จะสนิทกับทางญาติ ผู้ตายมากกว่า แต่ผู้ตายและผู้ก่อเหตุทั้งสองคนก็เป็นญาติกัน แต่ตนก็ไม่ทราบว่า มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งในเรื่องใด เพราะผู้ตายนิสัยก็เป็นคนเงียบๆ ก็ไม่คิดว่าญาติกันเองแท้ๆต้องมาทำกันถึงขนาดนี้

 

โดยหลังจากรับศพนายอัชฌาแล้วก็จะไปเชิญวิญญาณลูกชายที่ลานดินหลังร้านอาหารย่านบางเขน ก่อนนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดหารเทา อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง สวดอภิธรรมเป็นเวลา 3 วัน

ขณะที่ นายเลี่ยน​ หนูปทุม​ พ่อของผู้เสียชีวิต​ กล่าวว่า​ ปักใจเชื่อว่านายจุ๊บเป็นคนฆ่าลูกชายของตน​ เพราะก่อนมีข่าวเสียชีวิตทางครอบครัวได้มีการโทรศัพท์​สอบถามทางนายจุ๊บว่าเจอนายขิกหรือไม่​ ทางนายจุ๊บได้ตอบว่าไม่เจอมาหลายวันแล้ว เเละเมื่อมีข่าวออกมานั้น​ นายจุ๊บก็ไม่ได้เข้ามาแสดงเสียใจหรือช่วยเหลือในตามหาเลย​ เมื่อโทรกลับไปอีกครั้งก็ไม่รับสายอีกเลย​ ทำให้คุณพ่อติดใจว่าทำไมถึงไม่ช่วยเหลือ​ พ่อยืนยันอยากให้จับตัวให้ได้เเละอยากให้ลงโทษถึงขั้นประหารชีวิต

นอกจากนี้พ่อผู้เสียชีวิตยังบอกอีกว่า​ นายขิกเป็นคนจิตใจดี​ ไม่มีปัญหาอะไรกับใคร​ กับนายจุ๊บก็เป็นเพียงญาติห่างๆ​ที่ชักชวนกันมาทำงานเท่านั้น​ อยากให้มาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นสักหน่อยแต่ก็ไม่ได้รับอะไรเลย​ ก่อนตายนายขิกได้โทรศัพท์​หาลูกอยู่บ่อยๆ​ แล้วก็หายไป​ เมื่อลูกติดต่อกลับก็พบว่ามีคนรับสายแต่ไม่ทราบว่าเป็นเสียงใคร

 

related