กองปราบตามรวบหนุ่มใหญ่ ก่อเหตุพยายามฆ่าและหลบหนีคดีนานกว่า 17 ปี หลังกบดานบ้านเมีย

กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยการอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ,พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ป.สั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก 5 บก.ป., พ.ต.ท.เผด็จ งามละม่อม รองผกก.5 บก.ป.ปฏิบัติการโดย พ.ต.ท.ศิลปชัย ถวัลย์ภิยโย สว.กก.5 บก.ป.,ร.ต.อ.ปิยพล ชูแสง รอง สว.กก.5 บก.ป.,ด.ต.ปรีชา แก้วสวัสดิ์,ด.ต.สมบูรณ์ กูลระวัง และด.ต.พงษ์ศักดิ์ สอนสวัสดิ์ ผบ.หมู่ กก.5 บก.ป.

ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายสมพร คนธามาศ อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ลงวันที่ 3 เมษายน 2562 ซึ่งต้องหาว่า “ พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ซึ่งคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2545 เวลาประมาณ 06.00 น. นายสมพร ซึ่งเข้าใจว่านายวิรัช เป็นสายข่าวยาเสพติด แจ้งข้อมูลให้ตำรวจมาจับบิดา ของนายสมพร ในข้อหาครอบครองยาบ้า 19 เม็ด ซึ่งหลังบิดานายสมพรถูกจับ นายสมพรได้ไปได้ไปหานายวิรัช ที่บ้านพักใน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช เพื่อไปสอบถามนายวิรัชว่าเป็นสายให้เจ้าหน้าที่หรือไม่ ซึ่งนายวิรัชได้ตอบว่าไม่ได้เป็นสายข่าวให้ตำรวจ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีที่ตำรวจจับบิดานายสมพร เมื่อคุยเสร็จนายวิรัชได้เดินหันหลังให้ นายสมพร จังหวะนั้นนายสมพรได้ใช้มีดทำครัวที่พกติดตัวมาฟันนายวิรัชจนล้มลง และได้ใช้มีดฟันซ้ำอีก แต่ได้มีคนเห็นเข้ามาขัดขวางและแย่งมีดไป ทำให้นายวิรัชได้รับบาดเจ็บ

คดีนี้ตำรวจกองปราบปรามได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตรวจสอบจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในช่วงระดมกวาดล้างผู้ต้องหาตามหมายจับห้วงวันที่ 1 -10 เมษายน 2562 ชุดจับกุมจึงทำการตรวจสอบผู้ต้องหาตามหมายจับ จนทราบว่านายสมพร คนธามาศ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับและหนีคดีพยายามฆ่า มานานกว่า 17 ปี และหนีมาอาศัยอยู่ที่บ้านภรรยาใน อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี ตำรวจกองปราบปราม จึงส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ออกหาตัว แต่เนื่องด้วยนายสมพร เป็นบุคคลที่ชอบเที่ยวแตร่ ทำให้ไม่ค่อยกลับบ้านพัก ตำรวจจึงแกะรอยออกตามหา จนกระทั้งเมื่อช่วงเช้ามึด วันที่ 3 เมษายน 2562 ตำรวจกองปราบปราม พบนายสมพร ขับขี่รถกระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีฟ้า เข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้านเป้าหมาย ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแสดงหมายจับให้นาย สมพร คนธามาศ ดูและอ่านจนเข้าใจ ก่อนที่นายสมพร จะยอมรับว่าตนเองเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวนี้จริงและไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดีตามหมายจับดังกล่าวนี้มาก่อน

และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.นาบอน จว.นครศรีธรรมราช สอบสวนปากคำเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป