ตำรวจปราบปรามยาเสพติด จับกุมขบวนการยาเสพติดรายสำคัญได้จำนวนมาก และยึดยาบ้าได้กว่า 848,000 เม็ด โคเคน 1,900 กรัม และยาไอซ์อีก 20 กิโลกรัม มูลค่ารวมกว่า 106 ล้านบาท
คดีแรกเป็นยาบ้าจำนวน 5 แสนเม็ด เป็นของกลางที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 ตรวจยึดได้จากนายวิโรจน์ มาเยอะ และนายเอกภพ บริณัย กลุ่มเอเยนต์ยาเสพติดในจังหวัดเชียงราย ขณะขับมายังริมถนนพหลโยธินในอำเภอพาน เพื่อทำการส่งมอบยาบ้าจำนวนดังกล่าวให้กับขบวนการ ตำรวจปส. 3 ที่ติดตามพฤติกรรมทั่งคู่แสดงตัวจับกุมและยึดยาบ้าที่ท้ายรถกระบะไว้เป็นของกลาง ดำเนินคดีกับทั้งคู่ในจ้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย
ส่วนโคคาอีน หรือโคเคนจำนวน 99 ก้อน น้ำหนักเกือบ 2 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดได้จากนายฟอล มามาดู ชาวเซเนกัล ขณะเดินผ่านเครื่องเอกซเรย์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และพบสิ่งแปลกปลอมในท้องจึงให้ไปขับถ่ายออกมาพบเป็นยาเสพติดจำนวนดังกล่าว โดยเจ้าตัวสารภาพรับจ้างกลืนโคเคน เพื่อเข้ามาในประเทศไทยตำรวจแจ้งข้อหานำยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีนเข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาต และครอบครองเพื่อจำหน่าย
ส่วนยาบ้าอีก กว่า 3 แสนเม็ด ไอซ์ 20 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่ยึดยาเสพติดจำนวนดังกล่าวได้จากรถยนต์กระบะที่ดัดแปลงเป็นช่องเก็บยาเสพติดที่กระบะท้าย ขณะขับผ่านที่ด่านตรวจพยุหะคิรีที่จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 10 เมษายน โดยมีนายปิติภัทร วิสัยทัศนากุล เป็นคนขับ ก่อนขยายผลจับกุมขบวนการได้รวมทั้ง 4 คน เป็นขบวนการที่ลักลอบนำยาเสพติดมาส่งในกรุงเทพและปริมณฑล อีกคดีตำรวจได้รับการประสานจากสหพันธรัฐออสเตรเลีย ที่ได้ประสานให้ติดตามจับกุมขบวนการลักลอบส่งสารซูโดอีเฟดีน 3.9 ตัน ซุกซ่อนในน้ำชาเขียว ส่งประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี 2560 จึงได้ติดตามจับกุมนาย วิหาร ทองอ่อน อายุ 60 ปี ข้อหา สมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปร่วมกันส่งออกวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทสองออกนอกราชอาณาจักร
นอกจากนั้น พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังระบุว่า ตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 ยังสามารถจับกุม ขบวนการนายเล่าต๋า แสนลี่ได้เพิ่มเติม คือ นายสมชาย หรืออาเบนุ แสนหมี่ เป็นลูกเขย ของนายเล่าต๋า ที่หลบหนีหมายจับไปหลบซ่อนตัวที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนที่จะเข้าสอบปากคำ นายสมชาย
ขณะที่ พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติศรีวรขาน รองผบ.ตร. ระบุว่า นายสมชาย ให้การไม่เป็นประโยชน์ ปฏิเสธ ไม่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดของนายเล่าต๋า แต่จากเเนวสืบสวนเเละหลักฐานพบพฤติการณ์ เกี่ยวข้องยาเสพติด ตั้งแต่ 2546 ซึ่งยืนยันตำรวจ มีพยานหลักฐานที่ สามารถ เอาผิดผู้ต้องหาได้แน่นอน