svasdssvasds

ศาลธัญบุรี ปล่อยตัวพ่อค้าส้ม แพะคดียาบ้าแล้ว หลังผลสอบไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ศาลธัญบุรี ปล่อยตัวพ่อค้าส้ม แพะคดียาบ้าแล้ว หลังผลสอบไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

พ่อค้าส้มที่ถูกตำรวจ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จับเป็นแพะในคดียาเสพติดได้รับการปล่อยตัวแล้ว หลังผบ.ตร.สั่งตำรวจภูธรภาค 1 สอบสวนข้อเท็จจริงจนทราบว่าผู้ต้องหาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงทำเรื่องเสนอต่อศาลธัญบุรีให้ปล่อยตัว ขณะที่ทนายความเผยมีผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติรับปากจะเยียวยาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ดีที่สุด

จากกรณีที่นายพิชิต เชิดธรรม อายุ 36 ปี ถูกตำรวจ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จับในข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย หลังนายสมศักดิ์ หทัยทัศน์ ได้ว่าจ้างให้นายปองพล สวัสดิ์ทัส นำส้มจำนวน 180 ลังไปทิ้ง แต่นายปองพล ขอนำส้มไปขายต่อ จึงแบ่งส้มจำนวน 80 ลังให้นายพิชิต นำไปขาย แต่ขณะที่นายพิชิต นำส้มไปขายให้กับนางพรทิพย์ ซึ่งเป็นลูกค้า แต่ในขณะที่กำลังเทส้มออกจากลังเพื่อใส่กล่องกระดาษพบว่าภายในลังส้มมียาบ้า จำนวน 52,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ นายปองพล นายพิชิต และนางพรทิพย์  จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ สภ.คลองหลวง ให้มาตรวจสอบ พร้อมกับใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปยาบ้าไว้เป็นหลักฐาน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณปลายเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมา

เมื่อตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุได้ยึดยาบ้าทั้งหมดไว้เป็นของกลางในคดี ก่อนจะเชิญตัวบุคคลทั้ง 3 คนไปสอบสวน พร้อมนำตัวนายสมศักดิ์ ผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าของส้ม มาสอบสวนเช่นกัน แต่นายสมศักดิ์ตัวปฏิเสธ ตำรวจจึงออกอุบายให้นายสมศักดิ์ โทรศัพท์หานายใหญ่ให้โอนเงิน 500,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที นายใหญ่ของนายสมศักดิ์ ก็โอนเงินมาให้ จากนั้นตำรวจก็ออกอุบายเรียกเงินเพิ่มอีก1 ล้านบาท ซึ่งนายใหญ่ก็โอนมาจริง ตำรวจจึงตามสืบไปจนสามารถจับกุมมาสอบสวนดำเนินคดีได้ในที่สุด

ในชั้นการสอบสวนนายสมศักดิ์ รับสารภาพว่าเป็นเจ้าของยาเสพติดทั้งหมดจริง โดยเข้าใจผิดคิดว่าแยกลังส้มที่ซุกซ่อนยาบ้าออกมาจากรถจนหมดแล้ว ก่อนจะให้นายปองพล นำส้มที่เหลือไปทิ้ง นอกจากนี้นายสมศักดิ์ก็ไม่ได้ซัดทอดนายพิชิตว่ามีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ทำให้ครอบครัวของนายพิชิต คิดว่าตำรวดจอาจจะกันตัวนายพิชิตเป็นพยาน เพราะเป็นคนเห็นยาบ้าคนแรก และเป็นคนโทรศัพท์แจ้งตำรจให้มาตรวจสอบ แต่สุดท้ายนายพิชิตกลับถูกดำเนินคดีร่วมกับกลุ่มผู้ต้องหา และถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำธัญบุรี จ.ปทุมธานี ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา

ศาลธัญบุรี ปล่อยตัวพ่อค้าส้ม แพะคดียาบ้าแล้ว หลังผลสอบไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ตลอดระยะเวลาเกือบ 1 เดือน น.ส.กัลยกร ชลพิทักษ์ ภรรยาของนายพิชิต พร้อมลูกชาย 2 คน ได้ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องขอความเป็นธรรม โดยลูกชายวัย 11 ขวบ ของนายพิชิตได้ถือป้ายข้อความเขียนว่า “ช่วยพ่อผมด้วย พ่อผมเป็นแพะ” ก่อนจะนำลูกชาย ประสานขอความช่วยเหลือจากนาย วรกร พงศ์ธนากุล ทนายความ พร้อมบุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความเป็นธรรมจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา นอกจากนี้นายธวัชชัย ไทยเขียว ปลัดกระทรวงยุติธรรม ยังยื่นมือพร้อมให้การช่วยเหลือ โดยให้กองทุนยุติธรรมออกค่าใช้จ่าย 800,000 บาท เพื่อขอประกันตัวนายพิชิต เพื่อออกมาต่อสู้คดี

 

 

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายวรกร พงศ์ธนากุล ทนายความพร้อมครอบครัวของนายพิชิต ได้เดินทางไปยังเรือนจำธัญบุรี หลังได้รับการประสานว่าศาลธัญบุรี มีคำสั่งปลอ่ยตัวนายพิชิต ซึ่งทันทีที่ น.ส.กัลยกร และลูกชาย เห็นนายพิชิตได้รับอิสระภาพ ได้โผเข้ากอดกันด้วยความดีใจ โดยนายวรกรกล่าวว่า สาเหตุที่นายพิชิต ได้รับการปล่อยตัว เพราะเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมาได้พาครอบครัวนายพิชิต ไปร้องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รับเรื่องเพื่อเสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยหลังจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.รับทราบเรื่องราวทั้งหมด ได้สั่งการให้ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งคณะทำงานของตำรวจภูธรภาค 1 ตรวจสอบแล้วพบว่านายพิชิต ไม่น่าจะเป็นผู้กระทำผิด จึงทำคำร้องถึงศาลธัญบุรี ให้ศาลปล่อยตัวนายพิชิต ศาลจึงปล่อยตัวโดยไม่มีการประกันตัว

ศาลธัญบุรี ปล่อยตัวพ่อค้าส้ม แพะคดียาบ้าแล้ว หลังผลสอบไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

นายวรกร กล่าวว่าได้รับการประสานจากผู้ใหญ่ของสำงานตำรวจแห่งชาติ ว่าจะมีการเยียวยาเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจะมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันพรุ่งนี้ คดีนี้จึงเป็นคดีแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะไม่เคยมีมาก่อนที่ผู้ถูกจับกุมในคดียาเสพติดแล้วมีการปล่อยตัวในระหว่างที่ฝากขังแล้วมีความเห็นว่าไม่มีการกระทำความผิด ตามกฎหมายชื่อของนายพิชิต ยังอยู่ในสำนวนครบ 84 วัน ตามกรอบระยะเวลาของกฎหมาย เพราะคดีนี้ยังมีผู้กระทำความผิดอีก 2 คน ที่ไม่ได้รับการปล่อยตัว ซึ่งตามกฎหมายแล้วพนักงานสอบสวนจะเป็นผู้เสนอความเห็นไม่สั่งฟ้องนายพิชิต ต่ออัยการ หากพนักงานอัยการไม่เห็นต่างจากพนักงานสอบสวนนายพิชิตก็จะพ้นมลทิน อย่างแท้จริง ซึ่งขึ้นอยู่กับอัยการจะเป็นผู้พิจารณา

related