วานนี้เป็นวันพระใหญ่ แต่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ สามารถกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ได้หลายพื้นที่ แต่ละแห่งรายละเอียดน่าสนใจ ทั้งแม่เล้าที่อายุแค่ 16 ปี จัดซื้อขายผ่านออนไลน์ การใช้ยาบ้าเป็นค่าตอบแทน รวมถึงการ จับกุมร้านคาราโอเกะแฝงค้าประเวณีเด็ก
เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือปคม. นำกำลังวางแผนเข้าจับกุมตัว นายพิวัฒน์ บุญมาก อายุ 27 ปี เจ้าของร้านศาลาพักใจน้ำคาราโอเกะ และนางนุช คล่องดี อายุ 54 ปี เจ้าของร้านศาลาพักใจลีโอ ในฐานความผิด "ค้ามนุษย์โดยแสวงหาผลประโยชน์จากการค้าประเวณีเด็ก ,ชักจูงส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำความผิด และเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต"
โดยชุดสืบสวนกองกํากับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) สืบทราบว่า ร้านคาราโอเกะทั้ง 2 ร้าน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เปิดร้านคาราโอเกะบังหน้า แอบแฝงขายบริการทางเพศ ซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวนมาก ถือเป็นภัยสังคม และเข้าข่ายเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ จึงรายงานผู้บังคับบัญชา และเข้าปฏิบัติการกวาดล้างจับกุม ก่อนส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
ปฏิบัติการครั้งนี้ สามารถช่วยเหลือเด็ก ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ จากทั้ง 2 ร้าน ซึ่งมีอายุระหว่าง 14-17 ปี รวม 12 คน ส่งตัวเข้ารับการคุ้มครองที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครราชสีมา
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกชุด นำกำลังเข้าจับกุมตัวนางนิสากร โพธิ์วัง หรือ “เจ๊รวย” อายุ 58 ปี ในฐานความผิดฐาน “เพื่อสนองความใครของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจาร แก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม” โดยจับกุมได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองพอก อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด
สืบเนื่องจาก ตำรวจปคม.สืบทราบว่า นางนิสากร หรือ “เจ๊รวย” เป็นเอเย่นต์ส่งเด็กชื่อดังในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด มีพฤติกรรมล่อลวงเด็กสาวใจแตก มีปัญหาครอบครัว มาขายบริการทางเพศ โดยให้ยาเสพติด หรือเงิน 200-300 บาท ต่อการขายบริการ 1 ครั้ง เป็นค่าตอบแทน จึงร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ร้อยเอ็ด วางแผนจับกุมตัวโดยการล่อซื้อ พร้อมเข้าช่วยเหลือเด็กสาว อายุ 16 ปี มีลักษณะคล้ายคนเมายา เข้ารับการคุ้มครองที่บ้านพักเด็ก โดยจะขยายผลช่วยเหลือเด็กในสังกัดที่ถูกล่อลวงมาขายบริการต่อไป
และรายสุดท้าย เจ้าหน้าที่ปคม. นำกำลังเข้าจับกุมตัว น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี หลังจากก่อนหน้านี้ได้เข้าช่วยเหลือ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ซึ่งถูกชักชวนให้ไปค้าประเวณี ได้บริเวณโรงแรมแห่งหนึ่ง ใน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ผ่านการโพสต์ขายบริการทางเพศบนทวิตเตอร์ ก่อนสืบทราบว่า บุคคลที่เป็นธุระจัดหาและโพสต์ข้อความเชิญชวนให้ซื้อบริการทางเพศนั้นคือ น.ส.เอ
โดย น.ส.เอ เคยทำงานเป็นพีอาร์อยู่ตามร้านเหล้าต่างๆ ก่อนผันตัวมาเป็นแม่เล้า ชักชวนเด็กผู้หญิงที่ทางบ้านมีปัญหา พ่อ-แม่แยกทางให้มาขายบริการ ซึ่งเด็กถูกหักค่าตัวจากผู้ต้องหาครั้งละ 300 บาท ส่วนที่ใช้ทวิตเตอร์ในการติดต่อขายบริการนั้น ก็เพราะสามารถติดต่อกับลูกค้าง่ายที่สุด และก็มีกลุ่มเฉพาะด้วย