svasdssvasds

"ศรีวราห์" ลงใต้ ยื่นขอออกหมายจับ 6 โจร ปล้นทอง 50 ล้าน นาทวี

"ศรีวราห์" ลงใต้ ยื่นขอออกหมายจับ 6 โจร ปล้นทอง 50 ล้าน นาทวี

“ศรีวราห์” รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงใต้ตามคดีปล้นทองนาทวี ขออนุมัติหมายจับ 6 ราย ยันมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พยานยืนยันตัวบุคคลมัดแน่นเพียงพอ ไม่ผิดตัวแน่นอน ขณะที่เจ้าของร้านทองขอป้อมจุดตรวจ ตำรวจเร่งดำเนินการภายใน 3 วัน

วันที่ 3 ก.ย. ความคืบหน้ากรณีกลุ่มคนร้ายกว่า 10 คน ก่อเหตุปล้นร้านทอง “ห้างทองสุธาดา” ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ ‪178-180‬ กลางตลาดนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา โดยแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ และบางส่วนแต่งกายเป็นผู้หญิง ควงอาวุธสงครามข่มขู่พนักงานสาว ภายในร้านที่มีอยู่ประมาณ 5 คน กวาดทองคำเกือบเกลี้ยงร้าน รวมน้ำหนัก 2,156.50 บาท มูลค่าเกือบ 50 ล้านบาท ก่อนหลบหนีไป โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเวลา 13.30 น. วันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด ทาง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. และคณะ เดินทางไปติดตามความคืบหน้าของคดี โดยลงตรวจบริเวณร้านทอง “ห้างทองสุธาดา” กลางตลาดนาทวี ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ และขณะนี้ยังคงปิดปรับปรุง พร้อมกับพูดคุยและให้กำลังใจ นายสมัคร อนุจร อายุ 56 ปี เจ้าของร้านทอง ซึ่งยังคงมีกำลังใจ และจะกลับมาเปิดร้านทองอีกครั้งในเร็วๆ นี้

จากนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมายังห้องประชุม สภ.นาทวี เพื่อประชุมสรุป และติดตามความคืบหน้าคดีกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจภูธรภาค 9 ตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ชุดสืบสวน ชุดพิสูจน์หลักฐาน รวมทั้งทหาร และฝ่ายปกครอง ซึ่งขณะนี้มีความชัดเจน และสามารถทราบตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว

โดยได้พยานหลักฐานที่สำคัญมาจากกล้องวงจรปิด ที่สามารถจับภาพรถตู้ที่คนร้ายก่อเหตุปล้นมาจากพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี แล้วนำมาก่อเหตุปล้นร้านทองในพื้นที่ อ.นาทวี จ.สงขลา นอกจากนี้ยังมีภาพวงจรปิดจากภายในร้านทองบางส่วน รวมทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จากการตรวจสอบดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝงที่อยู่บนรถตู้ และจากการตรวจสอบปลอกกระสุนปืน 9 มม. ที่คนร้ายใช้ยิงข่มขู่ชิงรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่ขับผ่านมาก่อนหลบหนี พบว่าเคยใช้ก่อเหตุยิง อส. และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เสียชีวิตรวม 3 ศพ ที่ตลาดนัดเชิงสะพานท่าหยี ม.6 ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 61

จากนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้เดินทางไปศาลจังหวัดนาทวี เพื่อยื่นคำร้องขออนุมัติออกหมายจับ และศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้จำนวน 6 คน ประกอบด้วย นายแวอูเซ็ง ดือราเฮ็ง อายุ 33 ปี ชาว อ.หนองจิก จ.ปัตตานี,นายไซฟูดดิน หะยีปูเต๊ะ อายุ 31 ปี ชาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี,นายรอซารี หลำโสะ อายุ 29 ปี ชาว อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา และ นายซอบรี หลำโสะ อายุ 29 ปี ชาว อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา

ทั้งหมดเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีหมายจับ ป.วิอาญา ติดตัวทุกคน ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับอีก 2 คน ที่เหลือนั้น เจ้าหน้าที่ขอปิดนาม เนื่องจากเป็นกลุ่มก่อเหตุความไม่สงบหน้าใหม่ และเพิ่งเข้ามาร่วมก่อเหตุครั้งนี้เป็นครั้งแรก

โดยทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาหนักรวม 8 ข้อหา ในฐานความผิด ร่วมกันก่อการร้ายโดยใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อสร้างความปั่นป่วนโดยให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน,ร่วมกันก่อการร้ายโดยการสะสมกำลังพล อาวุธ ทรัพย์สินเพื่อการ ก่อการร้าย หรือสมคบกันก่อการร้าย,ร่วมกันเป็นอั้งยี่และซ่องโจร,ปล้นทรัพย์และพยายามปล้นทรัพย์ฯ,ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นการจับกุม และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์,ร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต

พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ที่มีการขอออกหมายจับ เป็นแนวร่วมที่เคลื่อนไหวอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และรอยต่อ 4 อำเภอสงขลา ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ จากแนวทางการสืบสวนเชื่อว่า กลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุมีทั้งหมดราว 12 คน ซึ่งจะมีการสืบสวนขยายผล และรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อเอาผิดต่อไป

ส่วนเรื่องของการดูแลความปลอดภัยร้านทอง และย่านการค้าในตัวเมืองนาทวีนั้น เบื้องต้นได้มีการหารือร่วมกัน และคาดว่า อาจจะมีการตั้งป้อม หรือเป็นจุดตรวจมีกำลังเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยโดยรอบเป็นจุดๆ ขณะที่ในส่วนของการเยียวยาช่วยเหลือเจ้าของร้านทองที่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ และอยู่ในเขตพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดนใต้นั้น จะมีการหารือร่วมกันอีกครั้งราววันศุกร์นี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และ ฝ่ายปกครอง เพื่อพิจารณาชดใช้ให้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด รวมทั้งเอกสารยืนยันต่างๆของทางร้านทอง ก่อนที่จะมีข้อสรุปอีกครั้ง

related