จับอส.ยาเสพติดเกาะสมุยเอี่ยวค้ายา เงินหมุนกว่า 30 ล้าน ขยายผลรวบเครือข่ายได้อีก 3
รวบอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ประจำเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เกี่ยวพันยาเสพติดพบยอดเงินหมุนเวียนกว่า 30 ล้านบาท ก่อนขยายผลรวบเพิ่มอีก 3 ผู้ต้องหาตามหมายจับพัวพันคดียาเสพติดและฟอกเงินเครือข่ายเดียวกัน แกะรอยจากการส่งพัสดุยาบ้า 40,000 เม็ด โดยใช้ชื่อคนตาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวานนี้ ( 8 ก.ย.) พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายชุดเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติดเข้าจับกุมนายสิริศักดิ์ อินศาสตร์ หรือ "ต้น นักเลงหลวง" อายุ 46ปี ชาวต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เป็นอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.)ประจำอำเภอเกาะสมุย อยู่ในชุดปราบปรามยาเสพติด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดไชยา เลขที่86/2562 ลงวันที่ 3 ก.ย.62 ข้อหาฟอกเงิน
ตามแผนพิทักษ์เมืองคนดีครั้งที่ 3 ภาคใต้การ“ปฏิบัติการ คนไร้เงา”พร้อมตรวจยึดสมุดบัญชีธนาคาร อาวุธปืน และเครื่องกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง ก่อนควบคุมตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์จากเกาะสมุย ไปสอบสวนที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ส่วนเจ้าหน้าที่อีกชุดเข้าจับกุมนายเฉลิมศักดิ์ จันทร์อินทร์ อายุ 40 ปี ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ในข้อหาฟอกเงินตามหมายจับของศาลจังหวัดไชยา ที่ 81/2562 ลงวันที่ 3 ก.ย.2562
โดยจับกุมได้บริเวณด้านหน้าขนำ ไม่มีเลขที่ ม.6 ต.เกาะพะงัน หลังพบว่าทั้ง 2 คน มีส่วนพัวพันกับการสั่งซื้อยาบ้าส่งทางพัสดุไปรษณีย์ไทย โดยระบุชื่อคนตายและจัดส่งทางบริษัทเอกชนในพื้นที่ อ.ท่าชนะ ซึ่งตำรวจยึดยาบ้าไว้ได้กว่า 40,000เม็ด
ต่อมาเมื่อเวลา 19.40 น.ตำรวจจับตัวผู้ต้องหาเพิ่มอีก 3 คน คือ นายไพโรจน์ สมวงศ์ อายุ 42 ปี ,นายสมรัก ทองมาก อายุ 39 ปีและน.ส.เจนจิรา ยาบา อายุ 23 ปี มีส่วนพัวพันคดียาเสพติดและคดีฟอกเงิน โดยจับกุมได้ในพื้นที่เกาะสมุยตามหมายจับ ก่อนควบคุมตัวทั้งหมดขึ้นเรือเฟอร์รี่ไปสอบปากคำที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี
การบุกจับกุมสืบเนื่องจากมีขบวนค้ายาเสพติดส่งยาบ้า 40,000 เม็ดผ่านทางขนส่งพัสดุเอกชนและระบุชื่อ นายเฉลิม นิลวรรณ ซึ่งเสียชีวิตมาแล้วกว่า 7 ปี เจ้าหน้าที่จึงแกะรอยจนสามารถออกหมายจับเครือข่ายยาเสพติด และฟอกเงินได้ 20 คน จับได้แล้ว 8 คน
1 ในนั้น คือ นายสิริศักดิ์ อินศาสตร์ อส. ซึ่งอยู่ในชุดปฏิบัติปราบปรามยาเสพติดประจำอำเภอเกาะสมุย ตรวจประวัติพบพัวพันเครือข่ายยาเสพติดทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และภาคใต้ มีเงินหมุนเวียนในบัญชี 32 ล้านบาท
ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเค้นสอบว่าแก๊งนี้เป็นเครือข่ายเดียวกับนายวรวุฒิ รัตนภูมิธนากุล หรือผู้ใหญ่วอ อดีตผู้ใหญ่บ้านที่ถูกจับกุมและยึดทรัพย์เกือบ 100 ล้านบาทไปก่อนหน้านี้หรือไม่
