svasdssvasds

ตร.รับหนังสือขอข้อมูลนศ.อิสลามของจริง แจงรวบรวมตามปกติ

ตร.รับหนังสือขอข้อมูลนศ.อิสลามของจริง แจงรวบรวมตามปกติ

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับสำเนาหนังสือขอข้อมูลนักศึกษาอิสลาม ส่งถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัย เป็นของตำรวจสันติบาลจริง แจงเป็นการจัดทำฐานข้อมูล-บริหารงานข่าวกรองตามปกติ

วันที่ 16 ก.ย. จากกรณีที่ นางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “เห็นสำเนาหนังสือจากสันติบาลที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ที่ส่งถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัย เพื่อขอให้แจ้งจำนวนนักศึกษาที่นับถือศาสนาอิสลาม พร้อมทั้งให้ระบุนิกาย

รวมถึงการตั้งชมรม-กลุ่ม ของนักศึกษาที่นับถือศาสนาอิสลาม ประวัติประธานกลุ่ม หรือ ชมรม จำนวนสมาชิกและแนวทางการเคลื่อนไหว ในกรณีดังกล่าวไม่ทราบว่าสันติบาลคิดอะไรจึงมีหนังสือลักษณะนี้ถึงอธิบดีมหาวิทยาลัย เรื่องนี้ถือเป็นการแทรกแซงสิทธิความเป็นส่วนตัว การเลือกปฏิบัติทางศาสนา เป็นอคติและหวาดระแวงนักศึกษาที่นับถือศาสนาอิสลามโดยตรง และเป็นการแทรกแซงสถาบันการศึกษาซึ่งต้องมีเสรีภาพทางวิชาการ” นั้น

ล่าสุด พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ชี้แจงว่าหนังสือฉบับดังกล่าว เป็นหนังสือของ กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 กองบัญชาการตำรวจสันติบาล จริง  มีวัตถุประสงค์ ในการจัดทำฐานข้อมูลและบริหารงานข่าวกรองเกี่ยวกับ สถานการณ์ บุคคล หรือกลุ่มบุคคลในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงานของ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล

โดยมีการจัดเก็บข้อมูลไปยังสถาบันการศึกษาที่มีความรับผิดชอบ ภายใต้การรักษาความปลอดภัยตามกฎหมายว่าด้วยคุ้มครองความลับในราชการ กฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของทางราชการ ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ

รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า การจัดเก็บข้อมูลในลักษณะดังกล่าว เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการรวบรวมและจัดทำฐานข้อมูลด้านข่าวกรอง ซึ่งการออกหนังสือดังกล่าวนั้น ได้มีการดำเนินการ ไปยังสถานบันการศึกษาต่างๆหลายสถาบัน โดยไม่มีนัยยะสำคัญใดๆ ถือเป็นวงรอบการจัดทำฐานข้อมูลทางด้านการข่าวโดยปกติ

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ให้นโยบายในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอด ที่ต้องคำนึงถึง อำนาจหน้าที่ ภายใต้กรอบของกฎหมาย และ หลักสิทธิมนุษยชน ตามรัฐธรรมนูญ เป็นสำคัญ ตลอดจน พึงระลึกถึงการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันจะมีความผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา มีอัตราโทษทั้งจำและปรับ

related