ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 4 พฤศจิกายน น.ส.พิมพาภรณ์ อายุ 35 ปี ได้เดินทางเข้ามาแจ้งความกับ ร.ต.ท.อนุพงศ์ ดอกไม้ ร้อยเวร สภ.เสม็ดว่า ได้ฝากเงินเพื่อกินดอกเบี้ยกับ น.ส.เขมษิรญากรณ์ ในเฟซบุ๊กบ้านพารวย และจะให้ดอกเบี้ยเดือนละครึ่งหนึ่งของเงินที่ฝาก
ช่วงแรกก็ได้เงินดีค่าตอบแทนดีคือ ฝากไป 10,000 บาท ได้ดอกเบี้ย 5,000 บาท จึงได้นำเงินทยอยฝากไปประมาณ 33,000 บาท จนกระทั่งมีข่าวออกมาว่าได้มีการตามจับแชร์แม่มณี จึงได้ประสานงานกับ น.ส.เขมษิรญากรณ์ ซึ่งเป็นเครือข่ายของแชร์แม่มณี บอกว่าตนเองก็ฝากเงินทั้งหมดกับแม่มณีเหมือนกัน จึงได้มาแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน
หลังจากนั้น น.ส.พิมพาภรณ์กล่าวว่า ตนเห็นประกาศในเฟซบุ๊กของบ้านพารวย ซึ่งน่าสนใจเพราะให้ดอกเบี้ยต่อเดือนราคาดีมาก ช่วงแรกฝากเงินไป 10,000 บาท ครบเดือนได้เงินตอบแทน 5,000 บาท เมื่อได้ดอกเบี้ยดี จึงฝากต่อไปเรื่อยๆ ครั้งละ 1,000-2,000 บาท
จนกระทั่งล่าสุดช่วงเดือนพฤศจิกายน ไม่ยอมจ่ายเงินดอกเบี้ย จึงได้สอบถาม น.ส.เขมษิรญากรณ์ ซึ่งเป็นพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง ได้คำตอบว่าได้นำเงินทั้งหมดไปฝากไว้กับแม่มณีซึ่งจะได้ดอกเบี้ย 43 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน พร้อมทั้งมีกระแสข่าวว่าตำรวจได้ติดตามจับกุมแม่มณีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และถูกจับตัวได้ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงได้เข้ามาแจ้งความในครั้งนี้
ส่วนความเสียหายของตนนั้นประมาณ 28,000 บาท ส่วนในกลุ่มนั้นมีประมาณ 100 คน รวมความเสียหายประมาณ 14 ล้านบาทเศษ "ยอมรับว่าเฟซบุ๊กนั้นทำให้โดนใจมาก และทำให้อยากฝากเงิน ทั้งที่ไม่เคยเชื่อใจใครง่ายๆ ก็ขอฝากเตือน เงินทองที่ได้มาง่ายๆ นั้น ไม่มีอยู่จริงอาจจะถูกหลอกได้" น.ส.เขมษิรญากรณ์กล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-คุมตัวแม่มณี – แฟนหนุ่มขึ้นเครื่องบินไปอุดรธานี
-เปิดปาก แม่มณี ยันไม่โกง ปัดไม่เคยมีสัมพันธ์กับดาราชาย
-“มะนาว” คัมแบค โผล่โพสต์เฟซบุ๊ก หลังแม่มณีโดนจับ