ดาบตำรวจทองหล่อ อาการยังสาหัส พบสมองบวม ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ แพทย์โรงพยาบาลคามิเรียล ดูแลอย่างใกล้ชิด คาดสาเหตุพยามยามปลิดชีพ เกิดจากปัญหาความเครียด คดีบัตรเครดิต โดยศาลอุทธรณ์จะพิพากษา 28 พฤศจิกายนนี้
จากกรณีดาบตำรวจ สน.ทองหล่อ ใช้อาวุธปืนประจำกาย ขนาด 9 มม. ยิงศีรษะตัวเองจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เนื่องจากเกิดอาการเครียดปัญหาส่วนตัว หลังตกเป็นจำเลยในคดีปลอมบัตรเครดิต ต้องขึ้นศาลในวันที่ 28 พ.ย.นี้ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (25 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ สน.ทองหล่อ ว่า จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณชั้น 1 ของสถานีตำรวจ เป็นห้องรับรอง เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ทราบเรื่องต่างก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับอาการของด.ต.กิตติวุฒิ ชูหนู ผบ.หมู่ป.สน.ทองหล่อ อายุ 51 ปี ขณะนี้ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลคามิเรียล โดยมีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีอาการสมองบวม ยังคงใส่เครื่องช่วยหายใจ
ทางด้านนายศรยุทธิ์ และเลิศผล พ่อบ้านประจำ สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ลักษณะนิสัยของดาบตำรวจคนดังกล่าวเป็นคนขี้เล่น พูดคุยสนุกสนานเข้ากับทุกคนได้ดี แต่ในช่วงระยะหลัง สังเกตและรู้สึกได้ว่าเริ่มเงียบ ไม่ค่อยพูดคุยกับใคร ซึ่งไม่ทราบว่ามีปัญหาส่วนตัวอะไรหรือไม่ หลังจากเกิดเหตุการณ์ก็รู้สึกตกใจ และสงสารเขาด้วย เพราะเคยพูดคุยเล่นกันอยู่เป็นประจำ
ต่อมาเวลา 10.50 น. พล.ต.ต.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย ผบก.น.5 ได้เดินทางมาตรวจสอบความคืบหน้าที่ สน.ทองหล่อ พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว โดยจะมาดูในรายละเอียด และตรวจสอบสาเหตุการยิงตัวเอง
เบื้องต้นเชื่อว่านายตำรวจคนดังกล่าวเป็นผู้ยิงตัวเอง แต่สาเหตุเกิดจากอะไรขอดูในรายละเอียดก่อน ทั้งนี้ในฐานะผู้บังคับบัญชา จะได้หาทางป้องกันไม่ให้ตำรวจก่อเหตุในลักษณะนี้อีก อย่างไรก็ตาม ทราบว่านายตำรวจคนดังกล่าวเคยถูกจับในพื้นที่ สน.มักกะสัน ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลอุทธรณ์
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ ด.ต.กิตติวุฒ เคยถูกดำเนินคดีปลอมแปลงบัตรเครดิตมาแล้วเมื่อปี 57 แต่อัยการสั่งไม่ฟ้อง กระทั่งในปี 60 ก็ถูกเจ้าหน้าที่ฯ เข้าจับกุมอีกครั้ง เนื่องจากเป็นบุคคลเฝ้าระวัง โดยในครั้งนี้ยังไม่พบว่ามีมูลค่าความเสียหายจากการใช้บัตรเครดิตแต่อย่างใด ซึ่งศาลชั้นต้นได้พิพากษามีความผิด โดยวันที่ 28 พ.ย.นี้ศาลอุทธรณ์นัดฟังคำพิพากษาอีกครั้ง จึงทำให้เกิดความเครียดและก่อเหตุขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง