svasdssvasds

เปิดใจ แม่ "น้องพลอย" หลังฟังคำตัดสินคดีอุ้มฆ่า-เผานั่งยาง ลูกสาว

เปิดใจ แม่ "น้องพลอย" หลังฟังคำตัดสินคดีอุ้มฆ่า-เผานั่งยาง ลูกสาว

เปิดใจ แม่ "น้องพลอย" เหยื่อแฟนหนุ่ม อดีตทหารคดีอุ้มฆ่า-เผานั่งยาง หลังฟังคำตัดสิน ผู้ก่อเหตุรอดโทษประหาร-จำคุกตลอดชีวิต รับน้อยใจ กระบวนการยุติธรรม แต่พร้อมรับคำตัดสินของศาล อย่างน้อยก็จับตัวคนผิดมาลงโทษได้

น้องพลอย - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 15 ม.ค. 2563 ภายหลัง นางพัชรี ปั้นทอง พร้อมนายวิชา ผลิผล พ่อน้องพลอย และทนายปิยะณัฐ  สุกยัง เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ รณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางเข้ารับฟังผลคำสั่งพิพากษาศาลฎีกา กรณี ส.อ. พลกฤต วิเศษ แฟนหนุ่ม อดีตทหารสังกัดศูนย์การทหารปืนใหญ่ลพบุรี อุ้มฆ่าเผานั่งยาง น้องพลอย หรือ น.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล

หลังจากหายตัวไปสามปีกว่า ก่อนจะถูกพบเป็นศพไร้ญาติในป่า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยทางแม่น้องพลอยต้องการให้ศาลลงโทษประหารชีวิต ส.อ.พลกฤต วิเศษ หลังฟังคำพิพากษาเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ศาลกีฏาตัดสินยืนตามคำพิพากษาศาลอุทรณ์ จำคุก 33 ปี 11 เดือน ชดใช้เป็นเงิน 1.5 ล้านบาท

เปิดใจ แม่ "น้องพลอย" หลังฟังคำตัดสินคดีอุ้มฆ่า-เผานั่งยาง ลูกสาว

นางพัชรี กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าใจ ว่า นับแต่วันนี้ ขอให้ชีวิตของแม่มีแต่ความสุข พบแต่สิ่งดีๆสุขภาพกายใจแข็งแรงและขอให้น้องพลอยไปสู่ภพภูมิที่ดีๆและขอใช้ชีวิตในส่วนของแม่ทำบุญให้น้อง และก็ขอให้อย่ามีอะไรมาผูกพันกับคนร้าย ส่วนที่จะอโหสิหรือไม่ ขอเพียงว่าอย่าได้มาผูกพันกันอีกต่อไป ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม

เปิดใจ แม่ "น้องพลอย" หลังฟังคำตัดสินคดีอุ้มฆ่า-เผานั่งยาง ลูกสาว

การกีฏาของแม่ ก็คือขอเพิ่มโทษ คือศาลพิพากษายืน 33 ปี 11 เดือน พร้อมชดใช้ 1 .5 ล้านบาท ส่วนที่การตัดสินของศาล พึงพอใจมั้ย ตนรู้สึกน้อยใจ ในกระบวนการยุติธรรม แต่ครั้งนี้ก็ทำใจไว้แล้วว่า ผลออกมาจะต้องเป็นแบบนี้ เพราะว่า หลายๆคดีที่ออกข่าว ฆ่าคนไม่รู้ตั้งกี่ศพ ยังไม่ประหารเลย แล้วเขาก็ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้รอดจากการถูกประหารชีวิต

เปิดใจ แม่ "น้องพลอย" หลังฟังคำตัดสินคดีอุ้มฆ่า-เผานั่งยาง ลูกสาว

อย่างไรก็ตาม แม่ก็ขอน้อมเคารพต่อการตัดสินของศาล ในมุมมองอีกมุมหนึ่ง ก็ถือว่ายังโชคดีที่จับคนร้ายมาลงโทษได้

เปิดใจ แม่ "น้องพลอย" หลังฟังคำตัดสินคดีอุ้มฆ่า-เผานั่งยาง ลูกสาว

ด้านทนาย ปิยะณัฐ  สุกยัง  เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เผยว่า คดีอุ้มฆ่าอำพรางศพมองว่า จริงๆไม่ควรเป็นเหตุให้ลดโทษ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นด้วยความเคารพต่อคำพิพากษาของศาลกีฏา ก็น้อมรับไปตามนั้น เป็นจุดตัดของกระบวนการยุติธรรมต่อไป ระหว่างเจอศพกับไม่เจอศพ ทำให้ไม่เจอศพง่ายกว่าหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่สังคมอาจจะตั้งข้อสงสัยได้ต่อไป ถ้าทำให้ไม่เจอศพและอำพรางศพโทษน้อยกว่า ไม่ประหารชีวิต โทษน้อยกว่าที่มาเจอศพแล้ว รับสารภาพทีหลังเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างนี้ ต่อไปคนก็ฆ่าแล้วอำพรางศพ แล้วสังคมจะอยู่อย่างไร

related