ตร.ทางหลวงอุดรจับ 2 สาวควบปาเจโร่ขนกัญชาเกรดพรีเมี่ยม 300 กก.

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 ที่หน้าสถานีตำรวจทางหลวง สทล.3 กก.4 ถ.มิตรภาพ บ้านข้าวสาร ต.โนนสูง พ.ต.อ.อภิชาต โพธิจันทร์ ผกก 4 บก.ทล. แถลงข่าวจับกุม น.ส.สุธิดา เกื้อผล อายุ 33 ปี อยู่ที่ 81 หมู่ 12 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร และ นางอาภรณ์ กลิ่นน้อย อายุ 40 ปี อยู่ที่ 32 หมู่ 4 ต.ธาตุนาเวง อ.เมือง จ.สกลนคร พร้อมของกลาง กัญชาแห้งอัดแท่ง 300 แท่ง นำหนัก 300 กิโลกรัม รถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีดำ ทะเบียน กง 3215 นครพนม โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง โดยกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 5 กัญชา ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” โดยจับกุมได้ที่ด่านตรวจหนองสองห้อง อ.เมือง จ.หนองคาย

พ.ต.อ.อภิชาต โพธิจันทร์ ผกก.4 บก.ทล. เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ตำรวจทางหลวงได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการลักลอบขนกัญชา จาก อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ผ่านไปตามเส้นทางพังโคน-สว่างแดนดิน-หนองหาน-กุมภวาปี ขึ้นถนนมิตรภาพไป จ.ขอนแก่น จึงวางแผนตั้งด่านสกัดบริเวณถนนมิตรภาพ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พบรถยนต์ปาเจโร่ ของกลาง ตามที่ได้รับรายงานขับมาตามเส้นทาง เมื่อพบด่านตรวจคนขับรถคันดังกล่าวมีท่าทีพิรุธ โดยมีการเลี้ยวรถกลับก่อนถึงด่านตรวจ แล้วขับมุ่งหน้าไปทาง จ.อุดรธานี ทางตำรวจทางหลวงจึงขับรถตราโล่เปิดไฟวาบไล่ติดตาม พร้อมใช้เครื่องขยายเสียงสั่งให้หยุดรถเพื่อตรวจ

แต่รถคันดังกล่าวไม่ยอมจอด ได้ขับหลบหนีผ่าน จ.อุดรธานี จนไปถึงด่านตรวจหนองสองห้อง อ.เมือง จ.หนองคาย ตำรวจจึงตัดสินใจใช้ปืนยิงยางรถ 3 ล้อ บังคับให้จอด เมื่อรถจอดสงบนิ่งเนื่องจากยางรถยนต์แตกทั้ง 3 ล้อ จึงให้ผู้ขับขี่เปิดประตูรถลงมา พบว่าเป็นผู้หญิง 2 คน คือ น.ส.สุทธิดา เป็นคนขับ และ นางอาภรณ์ นั่งข้างคนขับ และได้ทำการตรวจค้นในรถ พบกัญหาแห้งอัดแท่งบรรจุถุงปุ๋ย 8 ถุง รวม 300 แท่ง น้ำหนัก 300 กก.ซุกซ่อนในส่วนท้ายของรถ โดยมีผ้าห่มคลุมปิดอำพราง จึงควบคุมมายัง สทล.3 กก.4 อุดรธานี ทำการสอบสวน

จากการสอบสวน น.ส.สุทธิดา และ นางอาภรณ์ ให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างจากนายพร ชาว สปป.ลาว ว่าจ้างให้ขนกัญชาแห้งอัดแท่งไปส่งที่ ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ค่าจ้าง 7 หมื่นบาท โดยนางอาภรณ์ฯ อ้างว่าเช่ารถปาเจโร่ที่สนามบินสกลนคร ขับมารับกัญชาแห้งที่ปั้มน้ำมัน ต.หนองเดิ่น อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ จากนั้นจึงขับรถมาทางพังโคน -สว่างแดนดิน-หนองหาน -กุมภวาปี ขึ้นถนนมิตรภาพ ขับมาจนถึง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น มาพบด่านตรวจ เกรงจะถูกจับจึงได้เลี้ยวรถกลับ ขับหลบหนีมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองอุดรธานี แต่ถูกตำรวจไล่ติดตามไปจนถึงด่านตรวจหนองสองห้อง อ.เมือง จ.หนองคาย ระนะทางกว่า 100 กม.จึงถูกจับ ส่วนสาเหตุที่ได้รับจ้าง อ้างว่า แม่ น.ส.สุทธิดา ป่วยจึงต้องการใช้เงินไปรักษา และเพิ่งทำเป็นครั้งแรกก็มาถูกจับกุม

พ.ต.อ.อภิชาต เปิดเผยต่อว่า เมื่อกลางเดือนที่แล้ว ตำรวจทางหลวงขอนแก่นและอุดรธานี จับขบวนการขนกัญชาแห้ง มาแล้ว 3 ครั้ง น้ำหนักรวม 1,500 กก. ซึ่งส่วนมากที่จับได้จะเป็นลักลอบขนใส่รถบรรทุกขนสินค้า ครั้งนี้ขบวนการขนกัญชาคงคิดว่า ถ้าเป็นผู้หญิงขับรถส่วนบุคคล คงไม่มีอะไรน่าสงสัยจะผ่านด่านตรวจไปได้ และจากรายงานข่าวทราบว่ากัญชาแห้งอัดแท่งเที่ยวนี้เป็นเกรดพรีเมี่ยม ที่ห่อด้วยกระดาษฟอยล์ทอง ราคาสูงถึง กก.ละ 10,000 บาท เพราะจะมีความแรงของกัญชามากขึ้น หากนำไปขายมาเลเซีย หรือสิงคโปร์ จะได้ราคาถึง 15,000-20,000 บาท แต่กัญชาที่ห่อกระดาษฟอยล์สีเงิน จะเป็นเกรดธรรมดาราคา กก.ละ 5,000 บาท เท่านั้น ทั้งนี้ทางตำรวจจะได้สืบสวนสอบสวนขยายผล ผู้ร่วมขบวนการค้ากัญชารายนี้ต่อไป