ทหารเกณฑ์ปลอมเฟซบุ๊กหลอกเด็กชายส่งภาพโชว์หวิว ขู่แลกเงินหรือมีเซ็กซ์

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผช.ผบ.ตร. ได้แถลงข่าวผลการสืบสวนสอบสวนในคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งผ่านเพจ Thailand Internet Crimes Against Children หรือ TICAC ว่ามีผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์ที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2563 ว่าถูกคนร้ายหนึ่ง หลอกลวงให้ถ่ายรูปภาพและวิดีโอโป๊เปลือยของตนเองส่งไปให้ หลังจากนั้นได้มีการข่มขู่แบล็คเมล์ และมีผู้เสียหายเป็นเยาวชนชายอายุต่ำกว่า 18 ปี มากถึง 100 ราย

หลังจากนั้นเข้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนทราบพฤติกรรมของคนร้ายนี้ โดยคนร้ายใช้เฟซบุ๊กชื่อ “อ๊อฟ’ลื้อ ขุนศึกลัมภะกัปปะนคร” เมื่อทำการพิสูจน์ตัวบุคคลจนทราบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นทหารเกณฑ์สังกัดค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดลำปาง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปตามจับกุมในค่ายดังกล่าว

คนร้ายได้อ้างว่าได้ถูกหลอกให้แลกรูปภาพโป๊เปลือย จากหญิงสาวคนหนึ่งที่รู้จักกันผ่านเว็บไซต์หาคู่ จึงถูกแบล็คเมล์ โดยเสียเงินไป 700 บาท จากการถูกหลอกในครั้งนี้ ทำให้คนร้ายได้ทราบและเลียนแบบแผนประทุษกรรมจากที่ตนเองเคยถูกหลอกมา โดยการนำไปหลอกคนอื่นต่อ ประมาณปลายปี 2559 ถึงปี 2562 คนร้ายได้ใช้แอปพลิเคชั่น Beetalk, Facebook สร้างโปรไฟล์ปลอมเป็นหญิงสาวหน้าตาดี ในการหาเหยื่อเพื่อหลอกแลกรูปภาพโป๊เปลือย

โดยที่คนร้าย ใช้แอปพลิเคชัน Twitter ในการค้นหารูปภาพโป๊เปลือยที่โพสต์ทั่วไปแล้วทำการคัดลอกเก็บไว้ เพื่อนำไปหลอกเหยื่อผ่านแอปพลิเคชัน Facebook และเมื่อได้รูปภาพจากเหยื่อแล้ว จะให้เหยื่อทำการเพิ่มผู้ติดต่อผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ โดยสร้างบัญชีผู้ใช้ปลอมขึ้นมา ใช้ชื่อว่า “นา’เดียร์’นิน่า” เมื่อเหยื่อทำการเพิ่มผู้ติดต่อแล้ว จะทำการข่มขู่เหยื่อให้ส่งรูปภาพและวิดีโอโป๊เปลือยมาให้อีก ผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ หากไม่ทำตามจะทำการโพสต์ประจานรูปภาพที่ได้มาก่อนหน้านั้นผ่านสื่อออนไลน์

หลังจากนั้นคนร้ายจะใช้บัญชีเฟสบุ๊คจริงของตนชื่อ “อ๊อฟ’ลื้อ ขุนศึกลัมภะกัปปะนคร” และบัญชีไลน์จริงของตนชื่อ “เสี่ย’อ๊อฟ’ลื้อ” ติดต่อกับเหยื่อ เพื่อสอบถามว่ารูปภาพที่คนร้าย ส่งให้เหยื่อดูนั้น ใช่รูปภาพของเหยื่อหรือไม่ จากนั้นก็จะทำการอาสาเป็นตัวกลาง ระหว่างเหยื่อกับบัญชีไลน์ปลอมชื่อ “นา’เดียร์’นิน่า” เพื่อที่จะให้ลบรูปภาพโป๊เปลือยของเหยื่อ โดยคนร้ายได้บอกกับเหยื่อว่า เงื่อนไขในการลบรูปภาพโป๊เปลือย คือ ให้ส่งรูปภาพ หรือวิดีโอโป๊เปลือยของเหยื่อชุดใหม่มาให้ หรือให้มามีเพศสัมพันธ์กับตนเองหรือบุคคลอื่น หรือให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของคนร้าย

หลังจากการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุม ได้ตรวจสอบอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือของคนร้ายจำนวน 3 เครื่อง พบภาพสื่อลามกอนาจารเด็กและข้อความพูดคุยกับผู้เสียหายจำนวนมาก นอกจากนี้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่ามีการโอนเงินจากการถูกแบล็คเมล์ ดำเนินการขยายผลหาผู้เสียหายเพิ่มเติมเพื่อคุ้มครองช่วยเหลือต่อไป

พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผช.ผบ.ตร. กล่าวว่า อยากจะให้คดีนี้เป็นการเตือนภัยสังคมว่าการกระทำผิดลักษณะนี้มักจะเกิดกับการรู้เท่าไม่ถึงการของเหยื่อ และทางตำรวจก็เตรียมขยายผลสอบสวนเพิ่มเติมว่ามีผู้กระทำผิดอื่นร่วมด้วยและมีผู้เสียหายมากกว่านี้หรือไม่ หากผู้เสียหายที่เคยถูกคนร้ายรายนี้หลอก และยังไม่ได้เข้าแจ้งความ หรือถูกคนอื่นๆหลอกให้เข้าแจ้งความได้ทันที เพราะคดีลักษณะทาง ผบ.ตร.ได้สั่งการมาเป็นพิเศษเพื่อกวาดล้างการกระทำผิดแบบนี้ให้หมดสิ้น อย่างไรก็ตามตัวของผู้ต้องหานั้นยังอยู่ในกระบวนการสอบวินัยของทหาร หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการ ทางตำรวจจะนำตัวออกมาดำเนินคดีต่อไป