แม่สุดช้ำ หลังรู้ลูกสาว 2 คน โดนพ่อแท้ๆ ข่มขืนนานนับปี ตร.รวบตัวทันที-ค้านประกันตัว
สาวพิการพาลูกสาว 2 คน อายุ 11 ขวบ กับ 4 ขวบ เข้าร้องมูลนิธิปวีณา หลังถูกพ่อขี้เมาล่วงละเมิดทางเพศ ทำร้ายร่างกายขู่ฆ่าห้ามบอกใคร ล่าสุดตร.จับกุมพ่อหื่นมาดำเนินคดีแล้ว พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีพฤติกรรมข่มขู่เอาชีวิต
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พานางเอ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นผู้พิการทางการเคลื่อนไหว พร้อมลูกสาวสองคนอายุ 11 ปี และอายุ 4 ปี เข้าพบ พ.ต.อ.วาสุเทพ คงกล่อม ผกก.สน.คันนายาว เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีหลังเด็กหญิงสองพี่น้องถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนและกระทำอนาจารมานานเป็นปี และขอให้ทางตำรวจคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมข่มขู่เอาชีวิต
นางเอ เล่าว่า อยู่กินกับนายเอก อายุ 42 ปี มานานกว่า 10 ปี มีลูกสาว 2 คน คือเด็กหญิงบี กับเด็กหญิงซี ได้อาศัยอยู่ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในซอยวัชรพล ย่านบางเขน กรุงเทพฯ พร้อมประกอบอาชีพ พนักงานทำความสะอาดหมู่บ้าน มีหน้าที่คอยกวาดถนน ดูแลความเรียบร้อยในหมู่บ้าน ส่วนนายเอกเป็นคนงานก่อสร้าง มีนิสัยชอบดื่นสุรา หากวันไหนเมาจะไม่ไปทำงาน ช่วงหลังมักจะอยู่ในห้องเช่ากับเด็กหญิงบี ลูกสาวคนโต โดยทีแรกก็ไม่ได้เอะใจอะไร
กระทั่งเมื่อปีที่แล้ว ตนเห็นกับตาว่า นายเอกใช้ผ้าห่มคลุมโปงกำลังกระทำกับเด็กหญิงบี จึงได้ต่อว่าไปจนทะเลาะกันรุนแรง และนายเอกได้ทำร้ายร่างกายตนพร้อมกับขู่ฆ่า หากนำเรื่องนี้ไปบอกใคร
ที่ผ่านมา ตนพยายามกราบขอร้องว่า อย่าทำกับลูกอีก ซึ่งนายเอกก็รับปาก แต่ก็แอบทำกับเด็กหญิงบีเรื่อยมาจนทุกวันนี้ โดยลูกก็บอกกับตนว่า ไม่กล้าขัดขืนเพราะกลัวพ่อจะทำร้าย และยังเห็นพ่อทำกับน้องอีกหลายครั้ง ตลอดเวลาตนต้องทนทุกข์ทรมานใจมาก ไม่คิดมาก่อนว่าคนเป็นพ่อจะทำกับลูกได้ขนาดนี้ ไม่รู้จะช่วยลูกได้อย่างไร
เมื่อทนไม่ไหวอีกต่อไปจึงนำเรื่องไปปรึกษากับพี่ที่ทำงานที่สนิทกัน ก่อนจะพาตนมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณา หลังจับกุมตัวได้ ก็รู้สึกสบายใจขึ้น และต้องการดำเนินคดีกับนายเอกให้ถึงที่สุด
ต่อมาตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.คันนายาว ได้จับกุมนายพูนชัย อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี 170/2563 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 ในข้อหากระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 13 ปี โดยเป็นผู้สืบสันดานและกระทำอนาจารเด็ก โดยจับกุมได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งไม่มีเลขที่ ในซอยวัชรพล
นายพูนชัย ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา อ้างว่า ก่อเหตุไปเพราะเมา ทำมานานเป็นปีแต่ทำเฉพาะลูกคนโต และเลิกทำมานานแล้ว ทั้งนี้ไม่เคยข่มขู่ภรรยาเพียงแต่โพสต์เฟซบุ๊ก เพราะโกรธที่ภรรยาพาลูกๆ หนีออกจากบ้านไป อยากให้กลับมาบ้านดูแลของที่บ้านและสัตว์เลี้ยง
พ.ต.อ.วาสุเทพ กล่าวถึงการดำเนินคดีตามกฎหมายว่า ทางพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว พร้อมทั้งสั่งให้เจ้าหน้าที่ดูแลผู้ต้องหาระหว่างควบคุมตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีอาการเครียด
อย่างไรก็ตาม จะทำการสอบสวนผู้ต้องหา ซึ่งผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้เพราะเป็นสิทธิ และเตรียมส่งตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลอาญามีนบุรีฝากขังในวันพรุ่งนี้ต่อไป
