191 ทลายขบวนการผลิตและจำหน่ายอาวุธปืน โพสต์ผ่านโซเชียล

เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 63 พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.บก.สปพ., พ.ต.อ.สมบูรณ์ เที่ยนขาว, สั่งการให้ พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ, พ.ต.ท.อัครพล โทยะ, พ.ต.ท.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์, รอง ผกก.สายตรวจ, พ.ต.ท.อัษฎาวุธ ขวัญเมือง สว.งานสายตรวจ 3 กก.สายตรวจ สนธินำกำลังสภ.เหมืองจี้ และตำรวจกก.สส.ภ.จว.ลำพูน จับกุมนายเกรียงไกร เกียรติคำ อายุ 25 พร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด 380 จำนวน 2 กระบอก อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด.38 จำนวน 5 กระบอก.อาวุธปืนไทยประดิษฐ์แบบลูกโม่ ขนาด.32 จำนวน 5 กระบอก อาวุธปืนไทยประดิษฐ์แบบลูกโม่ ขนาด 22 จำนวน 1 กระบอก ปืนบีบีกันจำนวน 48 กระบอก เครื่องกระสุนปืน ขนาดต่างๆจำนวน 575 นัด ปลอกลำกล้อง ลูกโม่สำหรับใช้บรรจุเครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 .22 ชุดเข็มแทงชนวนจำนวน 13ชุด และอุปกรณ์เครื่องทำปืนจำนวนหนึ่ง โดยจับกุมได้ที่ร้านส่งพัสดุภายในภายในตลาดจตุจักรลำพูน

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่กองกำกับการสายตรวจ ตรวจสอบพบว่ามีเพจขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนออนไลน์ ลงโพสต์ข้อความและคลิปวีดีโอ จำหน่ายอาวุธปืนไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืน จึงได้ติดตามพฤติการณ์ของเพจดังกล่าว กระทั่งสามารถจับกุมผู้ซื้อได้ ก่อนทำการขยายผลจนทราบว่าเพจดังกล่าวมีนายเกรียงไกร เกียรติคำ ผู้ต้องหา โดยมีฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่จังหวัดลำพูน จึงได้ร่วมกับ กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดลำพูน และสถานีตำรวจภูธรเหมืองจี้จน ทำการแกะรอย

กระทั่งช่วงสายวันนี้พบนายเกรียงไกร เกียรติคำ ได้ที่ร้านรับส่งพัสดุเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดลำพูน ขณะกำลังจะส่งพัสดุ ซึ่งเป็นอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน เมื่อตรวจสอบสินค้าภายในกล่องพัสดุพบว่าเป็นอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนและชิ้นส่วนอาวุธปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการขยายผลไปตรวจยึดของกลางได้อีกจำนวนมากที่อยู่ในรถยนต์ ยี่ห้อ ฟอร์ด สีดำ ทะเบียน ศ-0813 กรุงเทพมหานคร และที่บ้านพักในจ.ลำพูน

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับว่า ศึกษาวิธีการทำมาจากทางยูทูปโดยทำมาตั้งแต่ปี 2560-2563 ซึ่งจำหน่ายกระบอกละ 8000-10000 บาท รายได้ต่อเดือนประมาณ 100,000-300,000 บาท นอกจากนี้เคยต้องโทษคดีอาญามาก่อน ในข้อหามีปืนเถื่อน ท้องที่สภ.หาดใหญ่

เบื้องต้นแจ้งข้อหา ผลิตอาวุธปืน (ไทยประดิษฐ์) และมีอาวุธปืน (ไทยประดิษฐ์) และเครื่องกระสุนปืนไว้ใน

ความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งสภ.เหมืองจี้จน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป