ป้าไปฟอกไตที่ รพ. วานเด็กหนุ่มไปกดเอทีเอ็มให้ เงินหาย 5 พัน

วันที่ (24 เม.ย.63) น.ส.สุนันท์ อายุ 54 ปี ชาวบุรีรัมย์ วอนให้ช่วยตรวจสอบ เงินในบัญชีที่หายไป 5,000 บาท หลังจากวานให้ชายคนหนึ่ง ช่วยไปกดเงินให้ เพื่อใช้เป็นค่ารถ ในการเดินทางกลับบ้านหลังจากฟอกไตที่ดรงพยาบาลเสร็จ

น.ส.สุนันท์ เล่าว่า เธอป่วยเป็นโรคไตมาประมาณ 7 ปีแล้ว ต้องไปฟอกไตที่โรงพยาบาลในตัวเมืองบุรีรัมย์สัปดาห์ละ 3 วัน ซึ่งไม่มีเสียค่าใช้จ่าย โดยอาศัยรถตู้ของ อบต.ศรีภูมิรับส่งให้ฟรี เพราะฐานะยากจน

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา เธอไปฟอกไตตามหมอนัด ระหว่างทางลูกสาวได้โทรศัพท์มาแจ้งว่าโอนเงินมาให้จำนวน 5,800 บาท เพื่อเอาไปใช้หนี้ค่านมหลาน เพราะค้างค่านม กับร้านในหมู่บ้านเอาไว้ อีกส่วนหนึ่งให้เอาไปเป็นค่าใช้จ่าย ภายในครอบครัว

หลังจากฟอกไตเสร็จ จึงวานให้ชายคนหนึ่งช่วยไปกดเงินที่ตู้ เอทีเอ็ม ให้ 1,000 บาท จากนั้นชายคนดังกล่าวเดินกลับมาบอกว่าเงินในบัญชีมีแค่ 1,000 บาท จึงให้สามีเดินไปกดเงินด้วย เพราะลูกสาวยืนยันว่าโอนมาให้ 5,800 บาท รวมกับเงินติดบัญชี 287 บาท จะต้องมีเงิน 6,087 บาท

จากนั้นให้หลานที่บ้านเอาสมุดบัญชีธนาคาร ไปตรวจสอบที่ธนาคารออมสิน พบว่ามีการกดเงินออกไป 2 ครั้ง ครั้งแรก 5,000บาท ครั้งที่สอง 1,000 บาท ทิ้งระยะห่างกันประมาณ 10 นาที จึงได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ไว้เป็นหลักฐาน และอยากให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าใครกันแน่ที่เป็นคนกดเงินไป ส่วนตัวไม่ได้เจตนาจะโทษชายคนนั้น แต่วันเกิดเหตุไม่มีใคร เพราะสามีก็กดเงินไม่เป็น

น.ส.สุนันท์ ยังเล่าทั้งน้ำตาว่า เงิน 5,000 นั้น สำคัญกับครอบครัวมาก เพราะต้องเอาไปใช้หนี้ค่านมหลาน และเก็บไว้ซื้อข้าวกิน เพราะตัวเองก็ป่วยทำงานไม่ได้ รอแต่เงินที่ลูกสาวซึ่งทำงานอยู่กรุงเทพฯ ครั้งนี้ที่ส่งมาเยอะหน่อย 5,800 บาท เพราะต้องเอาไปจ่ายหนี้ อยากจะวิงวอนหากเอาไปจริงก็ขอเอามาคืน เพราะตอนนี้ไม่มีเงินที่จะใช้จ่ายเลย