svasdssvasds

“อาการน่าเป็นห่วง” “น้องภูเก็ต”ควายเผือกถูกรถชนขาหัก แพทย์ห่วงยืนเองไม่ได้ กินน้อย(มีคลิป)

สัตวแพทย์เผย “น้องภูเก็ต”ควายเผือกถูกรถชนขาหัก น่าเป็นห่วง อาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทำให้ยืนเองไม่ได้ และเริ่มไม่กินอาหาร แพทย์เฝ้าอาการใกล้ชิด

ความคืบหน้ากรณีควายเผือกหรือ “น้องภูเก็ต” ถูกรถชนได้รับบาดเจ็บและขาหัก เหตุเกิดในพื้นที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา ก่อนจะถูกส่งไปยังปศุสัตว์ภูเก็ต เพื่อสืบหาเจ้าของ ต่อมาทางทางมูลนิธิโคกระบือไทย ได้ขอรับตัว และประสานขอความอนุเคราะห์ส่งไปรักษายังโรงพยาบาลสัตวมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

ล่าสุด 28 พ.ค. 63 น้องภูเก็ต ได้อยู่ในความดูแลของคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ อ.หาดใหญ่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมาก และยังใช้เป็นสถานที่สำหรับการการดูและรักษาสัตว์ใหญ่โดยเฉพาะ

นสพ.กรฤต จันเนียม ผอ.โรงพยาบาลสัตว์ ม.อ. เผยว่า ควายเผือกตัวนี้เป็นเพศผู้ วัยรุ่น อายุน่าจะราว 2-3 ปี น้ำหนักตัวกว่า 400-500 กิโลกรัม มีบาดแผลถูกรถชนจนขาหน้าขวาหัก รวมทั้งไม่สามารถลุกยืน และใช้ขาทั้ง 4 ข้าง ได้ ทางสัตวแพทย์ได้ให้ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ปวด รวมทั้งตรวจเลือดหาความผิดปกติและภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ซึ่งขณะนี้ได้มีการทำแผล และเข้าเฝือกให้กับขาหน้าขวาแล้ว แต่ยังไม่ค่อยกินหญ้า พอที่จะดื่มน้ำได้บ้าง ซึ่งน่าจะมาจากทั้งอาการเจ็บปวด รวมทั้งความเครียดในสัตว์

ทั้งนี้ทางสัตวแพทย์ยังให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่จะนำสัตว์ใหญ่มาทำการรักษาด้วยว่า ขอให้มีการติดต่อกันก่อนกับทางคณะ และทางโรงพยาบาลสัตว์ เพื่อสอบถามความพร้อมในการให้การดูแลรักษา และควรมีเจ้าของสัตว์ที่แน่นอน หรือผู้ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ที่บาดเจ็บได้ เนื่องจากจำเป็นที่ทางสัตวแพทย์จะต้องได้รับประวัติของสัตว์ที่แน่นอน

สุดท้ายนี้อยากให้เคารพในคำวินิจฉัยของทางสัตวแพทย์ เพราะ การยื้อที่จะรักษา อาจจะทำให้สัตว์เจ็บปวดทรมานมากขึ้น หากสัตวแทพย์ให้คำแนะนำ ก็ควรที่จะปฏิบัติตาม เนื่องจากสัตวแพทย์ก็มีจรรยาบรรณ และไม่อยากจะฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเช่นเดียวกัน

related