svasdssvasds

“น้ำตาแห่งความดีใจ” กว่า 10 ปีที่พลัดพราก ตำรวจช่วยพ่อลูกได้พบหน้ากันอีกครั้ง(มีคลิป)

“น้ำตาแห่งความดีใจ” ตาวัย 83 ปี ป่วยหนัก สั่งเสียอยากเจอหน้าลูกชายอีกครั้ง หลังพลัดพรากกันนานกว่า 10 ปี ญาติจนปัญญาตามหา แจ้งตำรวจช่วยตามหาจนเจอ

23 มิ.ย. 2563พ.ต.อ.สมยศ ฟื้นชัยภูมิ ผู้กำกับการ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดมวลชนสัมพันธ์ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ และประชาชนจิตอาสา ต.หนองแวง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ได้นำเครื่องอุปโภค บริโภค ไปมอบให้คุณตาฤทธิ์ หรือนายฤทธิ์ บุญเพชร อายุ 83 ปี ซึ่งล้มป่วยด้วยโรคนิ่วในถุงน้ำดี และโรคเก๊าท์ นอนติดเตียงมานานกว่า 3 เดือนแล้ว เพื่อเป็นการขวัญกำลังใจ

ก่อนหน้านี้ครอบครัวของ คุณตาฤทธิ์ ได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือ ติดตามหานายสมพงษ์ หรือสวด บุญเพชร ลูกชายคนที่ 4 ซึ่งได้หายตัวออกไปจากบ้านตั้งแต่ปี 2547 และไม่เคยติดต่อกลับมาบ้านเลย จากการตรวจสอบทราบว่านายสมพงษ์ปัจจุบัน อาศัยอยู่ที่ ต.อุ่มเม่า อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ตำรวจจึงไปรับตัวกลับมา

เมื่อนายสมพงษ์มาถึงบ้านได้โผเข้ากอด พร้อมก้มลงกราบแทบเท้า ตาฤทธิ์ผู้เป็นพ่อด้วยความดีใจ หลังพลัดพรากกันมานานกว่า17 ปี ท่ามกลางความดีใจของครอบครัว เจ้าหน้าที่ตำรวจ และประชาชนจิตอาสา ที่มาร่วมเป็นกำลังใจให้คุณตาฤทธิ์ ได้พบเจอหน้านายสมพงษ์ ลูกชายอีกครั้ง

นายสมพงษ์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้มาพบหน้าพ่อ และญาติพี่น้องในครั้งนี้ หลังจากพลัดพรากจากกันมานานกว่า 17 ปี ขณะนั้นได้ออกจากบ้านไปทำงานต่างจังหวัดตั้งแต่ปี 2547 แต่งานที่ทำถูกโกง ทำให้ตนไม่มีรายได้ สภาพไม่ต่างจากคนเร่ร่อน ต้องร่อนเร่หาทำงานรับจ้างทั่วไป เพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ ไปเรื่อยเปื่อย

กระทั่งไปอยู่ที่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ได้รับความอนุเคราะห์ช่วยเหลือจาก กำนันตำบลอุ่มเม่า อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด รับเข้าทำงานในสวน เพื่อแลกกับที่อยู่อาศัยและอาหารการกิน โดยอาศัยอยู่นานหลายปี ซึ่งก่อนหน้านั้นคิดอยากกลับบ้านเหมือนกัน แต่เงินไม่พอ อีกทั้งจำทางกลับไม่ค่อยได้ กระทั่งกำนันบอกว่ามีตำรวจจาก อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ โทรติดต่อเข้ามาว่าพ่อของตนเอง ได้ล้มป่วยลง และต้องการพบหน้าของตนเอง โดยตำรวจจะเป็นผู้มารับกลับไปหาพ่อ รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่จะได้กลับบ้านมาพบพ่อกับญาติพี่น้องอีกครั้ง

นายสมพงษ์ กล่าวด้วยว่าหลังจากนี้จะขออยู่ดูแลพ่อ และหางานในพื้นที่ทำ หรือหากไม่มีงานทำ อาจจะกลับไปทำงานที่เดิมกับกำนันที่ จ.ร้อยเอ็ด แล้วค่อยหาโอกาสหรือวันใดว่างๆกลับมาเยี่ยมพ่อ

ด้านนางมนิตย์ สายทอง อายุ 57 ปี พี่สาวของนายสมพงษ์ เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวของตนมีพี่น้อง 9 คน นายสมพงษ์ เป็นคนที่ 4 ซึ่งทุกคนได้แยกย้ายกันมีครอบครัวกันไปหมดแล้ว แต่ยังคงอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน และจะคอยช่วยกันดูแลพ่อหรือคุณตาฤทธิ์ เนื่องจากพ่ออาศัยอยู่บ้านคนเดียว เพราะท่านไม่ยอมไปอยู่กับบ้านของลูกๆ โดยก่อนหน้านี้ประมาณ 3 เดือนกว่า พ่อได้ล้มป่วยลง โดยมีอาการปวดที่ท้องอย่างรุนแรง ไปหาหมอๆบอกว่าเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี จะต้องรีบทำการรักษาโดยด่วน หากทิ้งไว้นานอาจจะส่งผลถึงขั้นเสียชีวิต อีกทั้งพ่อก็อายุมากแล้ว เดินเหินก็ไม่สะดวกเพราะเป็นโรคเก๊าส์

นางมนิตย์ เล่าให้ฟังต่อว่า หลังจากผ่าตัดรักษาเสร็จ พ่อได้กลับมาฟื้นอยู่ที่บ้านพัก แต่ไม่สามารถลุกเดินได้เพราะปวดขา จากนั้นพ่อจึงบ่นขึ้นมาว่าอยากจะพบหน้าลูกหลานทุกคน โดยเฉพาะนายสมพงษ์ ที่ได้หายตัวออกไปจากบ้านนานกว่า 17 ปีแล้ว ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร พอดีตำรวจ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ได้เข้ามาจัดโครงการตำรวจมวลชนสัมพันธ์ ตนจึงได้นำเรื่องที่เกิดขึ้นไปพูดบอกตำรวจ ซึ่งตำรวจก็รับปากว่าจะช่วยหาให้

ส่วนคุณตาฤทธิ์ หรือนายฤทธิ์ บุญเพชร อายุ 83 ปี กล่าวว่ารู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้พบเจอหน้าลูกชายอีกครั้ง เพราะไม่ได้พบหน้ากันมานานกว่า 17 ปีแล้ว ตั้งแต่ลูกชายหายออกไปจากบ้าน

ขณะที่ พ.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตำรวจ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ได้จัดโครงการตำรวจมวลชนสัมพันธ์ หรือตำรวจ ชมส. โดยการลงพื้นที่หมู่บ้านหนองไผ่ล้อม หมู่ที่ 2 ต.หนองแวง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ เพื่อหาแนวร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ ในการพัฒนาด้านต่างๆของหมู่บ้าน รวมถึงด้านการเห็นหูเป็นตากับตำรวจ ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และยาเสพติด

พ.ต.อ.สมยศ กล่าวด้วยว่าถือเป็นเรื่องราวที่น่ายินดี ที่ตำรวจได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือให้พ่อลูกได้พบเจอหน้ากันอีกครั้งหนึ่ง หลักจากพลัดพรากกันมานานหลายปี ซึ่งทันทีที่คุณตาฤทธิ์ทราบว่า ตำรวจตามหาตัวลูกชายคุณตาฤทธิ์เจอแล้ว คุณตาฤทธิ์มีสีหน้าสดใสขึ้นจากเดิม และสามารถลุกนั่งนานๆได้ จากที่ก่อนหน้านี้นอนติดเตียง ลุกนั่งก็ลำบาก

related