svasdssvasds

“ไม่อยากเป็นภาระใคร” สาวป่วยโรคอ้วน หวั่นเป็นภาระครอบครัว สั่งต่อโลงศพล่วงหน้า(มีคลิป)

สาวป่วยโรคอ้วน-ไทยรอยด์ เผยปมในใจ พี่ชายเคยป่วยคล้ายกัน พอเสียชีวิตหาโลงศพไม่ได้ เกรงว่าวันหนึ่งตัวเองจะเป็นภาระสามี จึงขอความช่วยเหลือกู้ภัยช่วยต่อโลงศพไซส์พิเศษไว้ใช้ในวันไร้ลมาหายใจ

วันที่ 6 ก.ค. 63 นางสาวนวรัตน์ จันทร์ผล อายุ 30 ปี ซึ่งป่วยโรคอ้วน และไทยรอยด์ มีน้ำหนักตัวกว่า 200 กิโลกรัม หลังจากที่เจ้าตัวขอให้กู้ภัยช่วย ต่อโลงให้มีขนาดใหญ่เท่ากับตนเอง ไว้รองรับหากตัวเองนั้นเสียชีวิตเนื่องจาก อาการป่วยทำให้นอนหลับลึกและต้องปั๊มหัวใจช่วยมาแล้วถึง 2 ครั้งเมื่อฟื้นขึ้นมาได้ก็ทำใจ

เพราะความยากจนไม่มีเงินเข้าสู่กระบวนการรักษาได้อย่างเต็มที่ โดยมีพี่ๆหน่วยกู้ภัยสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน จุดโคบังพรานกระต่าย ได้ลงแรงช่วยกันนำไม้ยูคาที่ได้รับบริจาคมาแปรรูปและต่อโลงศพตามขนาดที่ต้องการ ซึ่งทางหน่วยกู้ภัยก็ได้เรี่ยไรกับผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านไปซื้ออุปกรณ์มาทำโรงศพ ไม้อัด และเทพพนม และสีที่ทาโลงจนแล้วเสร็จ จากนั้นโลงดังกล่าวได้ถูกนำไปเก็บไว้ที่วัดสุวรรณารามใกล้บ้าน ซึ่งทางเจ้าอาวาสรับปากว่าจะเก็บรักษาไว้ให้เป็นอย่างดี

ในส่วนที่มาของการสั่งทำโลงในครั้งนี้เนื่องจาก นางสาวนวรัตน์ รู้ตัวเองเป็นอย่างดีว่าไม่อยากให้เป็นภาระเนื่องจากโรงศพตามปกติขนาดใหญ่นั้นจะหายาก จึงเตรียมวางแผนนี้ไว้เพื่อไม่ให้คนที่อยู่ข้างหลังนั้นต้องเดือดร้อนและเป็นภาระให้กับทุกคน

ด้านการรักษา นางสาวนวรัตน์ เปิดเผยว่า มีโรงพยาบาลหลายแห่งทั้งจังหวัดกำแพงเพชรและในกรุงเทพฯซึ่งแนวทางการรักษาความอ้วนต้องผ่าตัดกระเพาะโรงพยาบาลในจังหวัดกำแพงเพชรนั้นเกินศักยภาพทำไม่ได้ซึ่งก็ต้องแพทย์ที่มีความเชี่ยววชาญจากโรงพยาบาลดังๆมาทำการรักษา ซึ่งจะต้องใช้เงินจำนวนมาก และนอกจากนี้ความเสี่ยงจากโรคประจำตัวคือโรคไทรอยด์อาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อการผ่าตัด และการผ่าตัดนั้นจะต้องมีการเตรียมตัวประมาณ 1 ปี ซึ่งจะต้องลดน้ำหนักตัวเองด้วยธรรมชาติเช่นการออกกำลังกายและการปรับในเรื่องของการรับประทานอาหาร ซึ่งการออกกำลังกายก็จะทำได้ไม่นาน เพราะร่างกายที่ใหญ่โตทำให้เหนื่อยหอบง่าย แล้วที่ขาหนีบเสียดสีกันเจ็บแสบทรมาน

ด้านการช่วยเหลือจากหน่วยงานมีสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกำแพงเพชร ได้เข้าไปช่วยเหลือเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา 2 ครั้ง และได้รับการช่วยเหลือเป็นถุงยังชีพแวะเงินบริจาคครั้งแรก 3,000 บาทครั้งที่ 2 2,000 บาทเป็นไปตามระเบียบของ พมจ.ที่จ่ายให้

ความรู้สึก ในขณะนี้รู้สึกอยากใช้ชีวิตอย่างปกติเหมือนกับคนทั่วไป มาถึงวันนี้ยอมรับสภาพของตนตัวเองเนื่องจากความยากจน จึงทำได้แค่เพียงใช้ชีวิตในแต่ละวันให้คุ้มค่า ทำตามแพทย์สั่งมีแค่ยากินและออกกำลังกายไปวันๆเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีความหวังใดใดให้คาดหวัง คงมีเพียงกำลังใจและทำใจเท่านั้นเอง

นางสาวนวรัตน์ เปิดเผยอีกว่า รู้สึกตื้นตัน ถึงความอาภัพกับชีวิตของตนเองซึ่งในที่สุดก็จะขอมีชีวิตอยู่เช่นนี้ต่อไป เพราะการรักษานั้นสุ่มเสี่ยงอันตรายถึงพิการและอาจจะหลับนิทราได้ สิ่งที่หวังก็ต้องการให้ชีวิตความเป็นอยู่นับแต่นี้จะไม่ลำบากเหมือนแต่ก่อน ซึ่งขณะนี้มียอดผู้เมตตาบริจาคในบัญชีกว่า 8 หมื่นบาท ก็จะเก็บไว้ใช้ในชีวิตประจำวันดำรงชีวิตด้วยคุณงามความดี และสัญญาว่าจะใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ ให้คุ้มค่าอย่างที่สุดพร้อมกับกล่าวทิ้งท้ายว่า ไม่ได้กลัวตายและรู้สึกปลงกับชีวิตแล้ว

related