อยากให้แม่สงสาร กุเรื่องโดนปล้น ตร.เค้นสอบ ยอมรับ ถูกแม่ไล่พ้นบ้าน(มีคลิป)

จากกรณี 3 คนร้ายก่อเหตุใช้รถจักรยานยนต์ 2 คันปล้นทรัพย์ ผู้เสียหาย เหตุเกิดที่ถนนวงแหวนรอบ 3 จากแยกสันกลางใต้ มุ่งหน้าสู่แยกต้นเปา ต.ต้นเปา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ รับแจ้งจากผู้เสียหาย อายุ 31 ปี บ้านอยู่ในพื้นที่ ต.แม่คือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่

โดยผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน สภ.สันกำแพง และหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้พาตัวผู้เสียหายไปชี้จุดเกิดเหตุซึ่งพบว่าจุดเกิดเหตุเป็นทางเปลี่ยวและมืด ไม่มีไฟกิ่งส่องสว่าง ผู้เสียหายได้ชี้จุดที่ถูกปล้นทรัพย์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการบันทึกภาพเอาไว้เป็นหลักฐาน

ผู้เสียหายเล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.วันที่ 7 ก.ค.2563 ระหว่างที่กำลังขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านในพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีรถของคนร้ายทั้งหมด 2 คันเป็น ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเข้ามาปาดด้านหน้าและพยายามให้หยุด

จากนั้นคนร้ายได้ถามในลักษณะคล้ายกับหาเรื่อง พร้อมกับโชว์มีดให้ดู และได้ยึดโทรศัพท์มือถือ และขกระเป๋าเงินไปซึ่งมีเงินสด 5,400 บาท จากการสังเกตคนร้ายทั้ง 3 มีอายุไม่มากไม่น่าจะถึง 30 ปี ส่วนน้ำเสียงที่ใช้ เป็นภาษาเหนือแต่สำเนียงน่าจะเป็นคนพื้นที่สูง ส่วนเงินสด 5,400 บาทนั้นจะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการไปโรงเรียน รวมถึงใช้กินใช้จ่ายในแต่ละวันของลูก

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ลงพื้นที่ไปประสานกับตำรวจสืบสวน สภ.สันกำแพง เข้าไปสอบสวนคลี่คลายคดีเนื่องจากเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ โดยได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางของผู้เสียหาย และของคนร้าย แต่ไม่พบเบาะแสของคนร้าย จึงนำตัว มาสอบสวน

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพบข้อพิรุธ ในคำให้การของผู้เสียหายหลายอย่าง และไม่พบรถของคนร้ายตามที่ผู้เสียหายได้แจ้งไว้ จึงทำการซักถามโดยละเอียด จนผู้เสียหายที่แจ้งเหตุไว้ รับว่าไม่มีเหตุปล้นทรัพย์ ตาม ที่แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจฯเกิดขึ้นจริง

ส่วนสาเหตุนั้นที่ต้องออกอุบายว่าโดนปล้นนั้น เนื่องจากมีปัญหากับทางบ้านอ้างว่าแม่ไม่ยอมให้เข้าบ้าน จึงหาเรื่องออกอุบายว่าถูกดักปล้น เมื่อบอกแม่แม่จึงได้รีบโทรแจ้งสายด่วน 191 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แนะนำให้ไปแจ้งความที่ สภ.สันกำแพง แค่อยากให้แม่สงสารและให้เข้าบ้านเพียงเท่านั้น

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายเอกไปพบพนักงานสอบสวน ผู้รับผิดชอบ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาในเรื่องแจ้งความเท็จ และดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป