svasdssvasds

หนุ่มเก๋งกร่าง เข้าพบตำรวจแล้ว ยอมรับผิดทุกกรณี

หนุ่มเก๋งกร่าง เข้าพบตำรวจแล้ว ยอมรับผิดทุกกรณี

หนุ่มขับวอลโว่ เข้าพบตำรวจรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมขอโทษ ไกล่เกลี่ยและยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด อ้างคู่กรณีเฉี่ยวชนก่อน ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหา คู่กรณีเปิดใจ ถูกชนท้ายก่อนถูกด่ารุนแรง ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับใคร

จากกรณีที่มีพลเมืองดีเผยแพร่ภาพคลิปเหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2563 เวลาประมาณ 03.00 น. ซึ่งเป็นอุบัติเหตุทางในพื้นที่ สน.ดอนเมือง ระหว่างรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ซึ่งในคลิปภาพมีชายสวมเสื้อยืดสีดำขับรถยนต์ แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวกับคู่กรณีที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ และไม่ให้การช่วยเหลือคู่กรณีที่ได้รับบาดเจ็บ

ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น.นายภาสกร อายุ 37 ปีเดินทางเข้าพบพ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.ดอนเมือง และพ.ต.ท.ชนิด เสือดาว สว.(สอบสวน) สน.ดอนเมือง เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

นายภาสกร กล่าวว่า วันนี้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ภายหลังเกิดเหตุ ได้กล่าวขอโทษผู้เสียหายแล้ว และยอมชดใช้ค่าเสียหายเป็นที่เรียบร้อยทางผู้เสียหายไม่ได้ติดใจเอาความ

ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นมาจากคู่กรณีขี่รถจักรยานยนต์ปาดหน้าก่อนมาเฉี่ยวชนรถของตัวเองจนเกิดการกระทบกระทั่งตามคลิปวีดีโอที่ปรากฏบนโลกสังคมออนไลน์ หลังจากนี้ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหารวม 3 ข้อหา ประกอบด้วยมีและพกพาอาวุธปืน ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ข่มขู่ , และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอาการบาดเจ็บ ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ขณะที่นายเก่ง อายุ 42 ปี ผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างกำลังจะขับรถกลับบ้านซึ่งขับในความเร็วประมาณ 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ในระหว่างที่กำลังขับอยู่นั้น ก็มีรถยนต์ มาขับชนท้ายทำให้ตัวเองกับเพื่อนกระเด็นตกรถไปคนละทิศคนละทาง

ในตอนนั้นรู้สึกปวดหัวมากเพราะหัวกระแทกกับพื้นอย่างแรงกำลังจะลุกขึ้น ความรู้สึกเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น รู้ตัวอีกทีตอนฟื้นตื่นขึ้นมาอยู่ที่โรงพยาบาลและ เป็นข่าวอย่างที่เห็นเมื่อวานนี้(12 ก.ค. 2563) เพื่อนไปเจอทางคู่กรณีมา ก็มีการเจรจาพูดคุยกับเรื่องค่าเสียหายแล้ว เหลือเพียงแค่ตกลงเท่านั้น

“ถึงแม้ว่า ผมจะไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น แต่ว่า ในคลิปที่ทางคู่กรณีปฏิบัติกับผมแบบนั้นไม่เหมาะสม มองว่าไม่ควรจะทำแบบนี้ อยากจะให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เฉพาะกับผมแค่คนเดียว โดยหลังจากนี้แล้ว ถ้าเขามาขอโทษผมก็ให้อภัย” นายเก่ง ระบุ

ด้านนายต๋อง อายุ 40 ปี เพื่อนที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ เปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุแล้ว ตัวเองอยู่ไกลจากเพื่อนแต่เห็นว่าล้ม สภาพเหมือนไม่มีสติ ไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว และจากนั้นคู่กรณีที่ใส่เสื้อสีดำ ก็ลงจากรถมาด้วยท่าทางอารมณ์ร้อน โกรธมาก เหมือนไม่พอใจ เดินเข้ามาเตะที่หลังของเพื่อนหลายครั้ง แล้วก็ต่อว่าหยาบคาย

พร้อมถามว่า มึงจะเอาอีกไหม แล้วก็เตะอีก จนเพื่อนร้องด้วยความเจ็บ และบอกว่า จะไม่เอาอีกแล้ว ตอนนั้นคู่กรณีบอกว่า ฝ่ายตัวเองผิด และโกรธมากที่ทำให้รถของเขาเสียหาย และบอกให้ต้องรับผิดชอบ เพราะว่า รถที่ขับนั้นคือรถของหน่วยงานราชการ

ในระหว่างนั้นทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เข้ามาทำแผลให้ แต่ทางคู่กรณีก็ยังตะโกนบอกว่า “มึงจะเอาอีกมั้ย ”เลยบอกว่าไม่เอาแล้ว พอแล้ว ส่วนเรื่องอาวุธปืนไม่ทราบว่าเขามีหรือเปล่า ได้ยินแต่เสียง แกร็ก ๆ แต่ก็ไม่ทันมองว่าคืออะไร

“เขาก็เข้ามายกมือไหว้ แทบกราบ แล้วบอกว่า ขอโทษที่ทำไปนั้น ถือว่าไม่ควรมาก ซึ่งท่าทีของเขาแตกต่างจากตอนเกิดเหตุเหมือนเป็นคนละคนกันเลย เขาขอโทษผมอย่างเดียว แล้วบอกว่าจะรับผิดชอบทุกอย่าง ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่รับผิดชอบให้ผมกับเพื่อนหายดี และชดเชยค่าเสียหายเพราะผมกับเพื่อนไม่สามารถทำงานได้” นายต๋องระบุ

related