svasdssvasds

เด็กหญิง ป.6 ห่วงแม่อยู่คนเดียว ขี่จยย.ให้ซ้อนท้ายไปดูแลที่ รร.(มีคลิป)

สุดรันทด! เด็กหญิงวัย 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 รร.บ้านทุ่งมะกอก จ.สุพรรณบุรี ผลการเรียนดี แต่ขอลาออกหางานทำ เลี้ยงแม่พิการตาบอด ผอ.รร.โพสต์ขอความช่วยเหลือ ขอให้จบชั้น ป.6

นายธาดา ธิกุลวงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทุ่งมะกอก ต.องค์พระ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี กล่าวถึงกรณีของ ด.ญ.สุดารัตน์ สมหวัง หรือน้องเตย อายุ 12 ปี นักเรียนหญิงชั้น ป.6 ที่เรียนดีแต่ฐานะยากจน แล้วยังมีภาระต้องดูแลแม่ที่พิการตาบอด

 

เมื่อวันที่ 13 ก.ค.2563 ที่ผ่านมาน้องเตยได้มาขอลาออกจากโรงเรียน โดยบอกว่าจะไปหางานทำ เพื่อหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวและรักษาแม่ ฐานะทางบ้านยากจน ประกอบกับพ่อได้แยกทางกับแม่ และแม่ก็ยังพิการตาบอด หลังจากผู้อำนวยการนำเรื่องของเด็กไปลงโซเชียล มีผู้ใจบุญจากเพื่อนๆชาวโซเชียลช่วยกันบริจาคเงินมารวม 25,000 บาท เพื่อต้องการช่วยเหลือเด็กให้ได้เรียนจบชั้น ป.6 ไปก่อนจากนั้นค่อยหาทางช่วยเหลือต่อไป

 

ขณะนี้ได้ปิดรับบริจาคแล้ว โดยหลังได้รับเงินบริจาคมาเด็กจึงยอมเรียนต่อ ทางโรงเรียนจึงได้ให้เด็กพาแม่มาโรงเรียนด้วย เนื่องจากเด็กเป็นห่วงแม่พิการตาบอดต้องอยู่บ้านตามลำพัง เพราะว่าแม่เด็กจะได้มีอาหารที่โรงอาหารของโรงเรียนรับประทานด้วย

 

บ้านของเด็กเป็นถนนลูกรัง ประมาณ 5 กิโลเมตร ส่วนช่วงทางเข้าบ้านเป็นหุบเขา ระยะทางประมาณ 1 กม.และเป็นทางเปลี่ยวไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง ถ้าช่วงหน้าฝนถนนก็จะเละ ส่วนสภาพบ้านเด็กก็เป็นบ้านกระต๊อบ หลังคาสังกะสีเก่ามีรูรั่วจำนวนมาก ส่วนพื้นบ้านและฝาบ้านทำจากไม้ไผ่ ซึ่งน้องอาศัยอยู่กับแม่พิการตาบอด

 

นางวรรณา สมหวัง อายุ 42 ปี แม่ของน้องเตย กล่าวด้วยน้ำตาว่ามีลูกสาว 2 คน คนโตอายุ 19 ปี มีครอบครัวแยกออกไปทำงาน ส่วนสามีก็หนีไปหลังจากที่ตัวเองป่วยเป็นเนื้องอกในสมอง ต้องเข้ารับการผ่าตัด จากนั้นตาข้างขวาก็มองไม่เห็น ส่วนตาซ้ายก็เห็นแบบลางๆ ตอนกลางวันที่มีแสงแดดส่วนกลางคืนก็จะมองไม่เห็น

 

ครอบครัวมีความเป็นอยู่ลำบากมากสงสารลูกไปโรงเรียนก็สงสาร เพราะไม่มีเงินให้ลูกไปกินโรงเรียนบางครั้งคิดอยากตาย แต่ก็คิดถึงลูกถ้าแม่ตายแล้วลูกจะอยู่กับใคร บางวันลูกไม่ได้ไปเรียนหนังสือต้องไปรับจ้างได้ค่าแรงวันละ 200 บาท เมื่อได้เงินมาให้เงินไปโรงเรียนวันละ 20 บาท แต่ลูกก็เหลือเงินกลับบ้านเท่าเดิมลูกบอกว่าหนูหิว แต่ก็ยอม อดเพื่อเก็บเงินไว้พาแม่ไปหาหมอ

 

โชคดีที่ทาง ผอ.โรงเรียน และครู ใจดี ห่ออาหารให้ลูกนำกลับมาทานที่บ้าน ส่วนลูกสาวคนโตก็ช่วยเหลือบ้างแต่ไม่มาก เนื่องจากมีภาระค่าใช้จ่ายเหมือนกันถ้าเป็นไปได้อยากวิงวอนท่านผู้ใจบุญช่วยบริจาคเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้ลูกได้เรียนสูงๆถ้าเหลือก็จะนำไปรักษาตัวเองให้หายจะได้ทำงานหาเลี้ยงลูกจะได้ไม่เป็นภาระของลูก

 

“ทุกวันนี้หนูจะตื่นประมาณตีห้าครึ่ง เพื่อหุงข้าวล้างจานทำงานบ้านจัดตารางสอน ก่อนหาข้าวให้แม่กินแล้วเตรียมตัวไปเรียน โดยขี่รถจักรยานยนต์พาแม่นั่งซ้อนท้ายไปโรงเรียนด้วย ไม่กล้าปล่อยให้แม่อยู่บ้านคนเดียวเนื่องแม่ตามองไม่เห็นกล้ามเนื้ออ่อนแรงทำอะไรไม่ไหวแล้วบางครั้งแม่ยังมีอาการชักเกร็งด้วย จึงต้องจำเป็นพาแม่ไปด้วย”น้องเตยกล่าว

 

นายธาดา ธิกุลวงษ์ ผอ.โรงเรียน เปิดเผยต่อว่าสำหรับการเปิดบัญชีรับบริจาค เพื่อนำรายได้ไปรักษาแม่ของน้องเตย คิดว่าในส่วนนี้คงต้องให้แม่ของน้องไปดำเนินการต่อ ซึ่งเป็นเรื่องนอกเหนือที่ทางโรงเรียนจะเข้าไปก้าวก่ายไม่ได้ หรือต้องให้ทางกำนันผู้ใหญ่บ้านมาช่วยดำเนินการต่อไป

 

ส่วนถ้าน้องมีความประสงค์จะเรียนต่อระดับมัธยมหรือปริญญาตรี ทางเราก็มีแนวทางมีทุน กสส.ทุนเสมอภาค ซึ่งก็พอช่วยเหลือได้ อย่างไรก็ตามโรงเรียนเราเป็นโรงเรียนพื้นที่สูงเราจะเน้นเรื่องการฝึกอาชีพอย่างน้อยหลังจากน้องเค้าเรียนจบจบ ม.3 น้องเตยจะต้องมีอาชีพทำงานหาเลี้ยงแม่และตัวเองได้

related