ขับรถหรูบุกยิงคู่อริถึงบ้านเจอสวนเจ็บ 1 สาเหตุขัดแย้งธุรกิจหน้ากากอนามัย

คืนวันที่ 1 ส.ค. 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลหลักสอง ได้รับแจ้งเหตุรถปอร์เช่สีเหลือง ป้ายแดง ถูกอาวุธปืนไม่ทราบชนิดกระหน่ำยิงภายใน พุทธมณฑลสาย 2 ซอย 11 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีผู้ได้รับยาดเจ็บเป็นชาย 1 คน ก่อนที่มีพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลบางประกอก 8 ในเวลาต่อมา

ในที่เกิดเหตุ ตำรวจ สน.หลักสอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบร่องรอยวิถีกระสุนปืน พร้อมกับสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์พบว่า ทั้ง 2 ฝ่ายรู้จักกัน แต่มีความขัดแย้งในการทำธุรกิจ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบลายเอียดทั้งหมด โดยตำรวจจะนำรถของกลางไปยัง สน.หลักสอง และจะทำการตรวจสอบผู้ครอบครองรถ ก่อนจะเชิญตัวมาสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป

พ.ต.ท. ธนะสิทธิ์ จิตติพัทธพงศ์ รองผู้กำกับการฝ่ายปราบปราม สน.หลักสอง ยืนยันตำรวจรู้เบาะแสและข้อมูลของผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว โดยหลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐาน กล้องวงจรปิดและคำให้การของเจ้าของบ้าน ก่อนที่จะออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุทั้งหมด มาดำเนินคดี ซึ่งเรื่องดังกล่าวทั้ง 2 ฝ่ายรู้จักกันและเกิดความขัดแย้งทางธุรกิจการซื้อขายหน้ากากอนามัย ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19

นอกจากนี้จากการสอบสวนผู้เสียหายให้การว่า กลุ่มชายฉกรรจ์ที่ขับรถหรูได้มีการโทรศัพท์ติดต่อนัดแนะผู้เสียหายเพื่อเจรจาธุรกิจซื้อขายหน้ากากอนามัย แต่ปรากฏว่าเมื่อมาถึงบ้านผู้เสียหายได้ชักอาวุธปืนยิง แต่ถูกผู้เสียหายยิงตอบโต้จนเป็นเหตุให้กลุ่มชายฉกรรจ์ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย

ทั้งนี้พฤติกรรมของกลุ่มชายฉกรรมจ์รถหรู เริ่มจากรถปอร์เช่สีเหลือขับเข้าไปในซอยของบ้านคู่อริ โดยมีรถอัลพาร์ดและรถคัมรี่ จอดรออยู่บริเวณหน้าปากซอย จากนั้นคนที่นั่งในรถปอร์เช่ โทรศัพท์หาเจ้าของบ้าน จากนั้นลูกน้องของเจ้าของบ้านได้ออกมาดู จากนั้นคนที่อยู่ในรถปอร์เช่ ได้ชักปืนยิงก่อน ทำให้เจ้าของบ้านยิงสวนกับ จนกระสุนถูกคนที่นั่งอยู่ในรถปอร์เช่ ซึ่งคาดว่าเป็นคนขับรถ ก่อนจะมีคนพาไปโรงพยาบาล หลังจากนั้นไม่นานกลุ่มชายฉกรรจ์ รถหรูได้พยายามกลับเข้าที่เกิดเหตุเพื่อจะนำรถปอเช กลับออกไป แต่ทางตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุก่อน