svasdssvasds

"เนตร นาคสุข" เข้าแจงต่อ กมธ.ปมสั่งไม่ฟ้อง“บอส อยู่วิทยา” ทำตามกรอบ

"เนตร นาคสุข" เข้าแจงต่อ กมธ.ปมสั่งไม่ฟ้อง“บอส อยู่วิทยา” ทำตามกรอบ

"เนตร นาคสุข" เข้าชี้แจง กมธ.กฏหมาย-ศาลฯ ปมสั่งไม่ฟ้อง "บอส วรยุทธ" ยัน สั่งคดีตามสำนวน เผย ลาออกเพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายหลังสังคมกดดันสถาบันอัยการ

การประชุมกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร วันนี้(13 ส.ค.63)มีการเรียกผู้ที่เกี่ยวในการสั่งไม่ฟ้องคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา มาชี้แจงต่อกรรมาธิการเป็นครั้งที่ 3 หลังจาก 2 ครั้งแรก ผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้โดยตรงไม่ได้มาชี้แจงด้วยตัวเอง ทำให้มีการเรียกเป็นครั้งที่ 3 หากไม่มา กรรมาธิการจะใช้กฎหมายคำสั่งเรียก เป็นครั้ง

ที่ 4

ปรากฏว่า ที่ประชุมวันนี้ รองอัยการสูงสุด นายเนตร นาคสุข คนที่สั่งไม่ฟ้องคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา มาชี้แจงเป็นครั้งแรก ถือเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของนายเนตร ต่อสาธารณะชน นอกจากนี้ ฝ่ายตำรวจที่ไม่เห็นแย้งคำสั่งอัยการ คือ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ก็มาชี้แจงคดีนี้ด้วยตัวเอง รวมทั้ง พนักงานสอบสวนในคดีนี้ และ ทนายความของ นายวรยุทธ ก็มาชี้แจงด้วย

นายเนตร นาคสุข ยืนยันว่า การพิจารณาสั่งไม่ฟ้องในคดีนี้ ตนสั่งตามที่พนักงานสอบสวนรวบรวมมาทั้งหมดส่วนดุลพินิจที่ตนไม่ฟ้องไม่ได้สั่งนอกสำนวนอะไรเลย ยืนยันว่ามีเอกสารหลักฐานมีการระบุความเห็นในการสั่งคดีไว้ชัดเจน ซึ่งเหตุผลที่สั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธนั้น เพราะว่าได้พิจารณาทั้งสำนวนดูว่าเดิมมีการสั่งคดีไว้อย่างไร ซึ่งครั้งแรกอัยการมีการสั่งฟ้อง ตามความเห็นของ พ.ต.ท.ธนสิทธิ แตงจั่น ที่บันทึกความเร็วไว้ 177 กม./ชม.

แต่เมื่อมีการสอบพยานใหม่หลังมีการร้องขอความเป็นธรรม พบว่าผู้ให้ความเห็นความเร็วรถคนเดิม คือ พ.ต.ท.ธนสิทธิ นั้นมาเปลี่ยนคำให้การ ว่าไม่ใช่ 177 เพราะวิธีคิดไม่ตรงกัน เมื่อคำนวณจากวิธีใหม่ ทำให้ความเร็วเหลือแค่ 79 กม. ก็ไม่เกินกฎหมาย ประกอบกับพยานอื่นมาสนับสนุน ทั้งผู้เชี่ยวชาญ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม จาก มจพ. ก็ยืนยันว่าความเร็วที่คำนวณจากภาพวิดีโอ ก็เร็วแค่เพียง 76 กม./ชม. ไม่ถึง 80 รวมทั้งมีพยาน 2 ปากที่ได้จากการสอบสวน ได้แก่ พล.อ.ท.จักรกฤช ถนอมกุลบุตร และ นายจารุชาติ มาดทอง ให้การว่าความเร็วของนายวรยุทธ ไม่ถึง 80 และพบว่าผู้ตาย เปลี่ยนเลนกระทันหัน จากซ้ายสุด มาขวาสุด เมื่อพยานให้การอย่างนี้ ความเร็วของรถนายวรยุทธ ไม่เกิด 80 ก็เป็นเหตุสุดวิสัย และหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนกฎหมายพอฟ้อง นายวรยุทธ ในความผิดฐานขับรถชนโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จึงสั่งไม่ฟ้อง และเสนอไปยัง ผบ.ตร และมีการให้ความเห็นชอบ

ส่วนเหตุที่นายวรยุทธ ร้องขอความเป็นธรรมมาหลายครั้ง และทำให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมใหม่จนต้องสั่งไม่ฟ้องนั้น ยืนยันว่าตามระเบียบอัยการไม่มีกำหนดว่าจะร้องได้กี่ครั้งเพราะเป็นสิทธิของผู้ร้องทั้งฝ่ายผู้ต้องหา ผู้เสียหาย และการพิจารณาให้ความเป็นธรรมนายวรยุทธ นั้น ก็มีการพิจารณามาเป็นลำดับชั้น ซึ่งกรณีนี้ สำนักงานกฤษฎีกาของสำนักงานอัยการ เสนอมาว่าเห็นควรพิจารณษให้ความเป็นธรรม

ส่วนที่ยื่นลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมานั้นยืนยันว่าลาออกจริง เพราะผมเป็นคนสั่งคดีนี้ และสังคมก็กดดันสถาบันของผมเพื่อความสบายใจของทุกคนผมจึงขอลาออกเพื่อรักษาภาพลักษณ์ขององค์กรที่ตนทำหน้าที่รับราชการเป็นอัยการอยู่ในองค์กรนี้มาแล้ว 40 ปี

related