พ่อมั่นใจปมชู้สาว ชนวนเหตุลูกถูกยิงทิ้งร่องน้ำสวนยางพารา

ที่กลางสวนยางพาราในพื้นที่ ม.6 บ้านกันขี้เหล็ก ต.ดอนทราย อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ตำรวจสภ.ปากพะยูน รับแจ้งเหตุพบศพในร่องน้ำ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมอาสากู้ภัยปากพะยูน

ที่เกิดเหตุพบร่างของนายชาตรี อายุ 30 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในร่องน้ำกลางสวนยางพารา ระดับน้ำในร่องสูงประมาณ 1 เมตร ช่วงลำตัวโผล่เหนือน้ำ สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ สภาพศพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นเน่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้จุดธูปเทียนเพื่อขอขมาศพก่อนใช้เชือกคล้องช่วงแขน เพื่อลากขึ้นมาเหนือน้ำ

จากการตรวจสอบพบถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด เข้าบริเวณหน้าอก เอว ไหล่ซ้าย และด้านหลัง รวม 4 แผล รอบบริเวณสวนยางพาราเจ้าหน้าที่ยังพบอาวุธมีดพกอยู่ในฟักสีน้ำตาลของผู้ตายตกอยู่ห่างจากศพประมาณ 30 เมตร

นอกจากนั้นยังพบว่ารถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวป 110 ของผู้ตาย จอดอยู่ในเล้าไก่ร้างห่างจากพบศพประมาณ 100 เมตร จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน แต่ไม่พบปลอกหรือหัวกระสุนในที่เกิดเหตุ รวมทั้งร่องรอยการต่อสู้ เนื่องจากมีฝนตกติดต่อมา 2 วัน

นายคล่อง พ่อของผู้ตาย กล่าวว่า ลูกชายออกจากบ้านเมื่อวันศุกร์ที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยได้บอกว่าจะไปบ้านลุง ในขณะที่อยู่บ้านลุงแฟนสาวที่คบหากันอยู่โทรตามให้ลูกชายเอาสายชาร์จโทรศัพท์ไปให้ ซึ่งแฟนสาวเองก็มีสามีอยู่แล้ว โดยมีบ้านพักอยู่ในหมู่บ้านใกล้ที่เกิดเหตุ ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกชายเคยพาแฟนสาวมาอยู่ด้วยกันที่บ้าน แต่ตนทราบว่ายังอยู่กับสามี จึงไล่แฟนสาวออกจากบ้านไป

หลังจากนั้นก็ยังลักลอบพบเจอกันบ่อยครั้ง หลังจากลูกชายหายไปตนก็ตามหากันมาตลอด เมื่อมาเห็นรถจักรยานยนต์ของลูกชายจอดอยู่ในเล้าไก่ร้าง คิดว่าสามีของแฟนสาวให้โทรมาเพื่อมาท้ายิงกัน เพราะก่อนหน้านี้สามีแฟนสาวได้ไปขู่ฆ่าพร้อมเล็งปืนไปที่ลูกชายครั้งหนึ่งแล้ว เหตุเกิดที่บ้านน้องชายของตน (ลุงของผู้ตาย) แต่หลานชายได้เข้าห้ามไว้ทัน และคาดว่าครั้งนี้นัดมาท้าทายกันอีกครั้ง จนลูกชายพลาดท่าจนถูกยิงตาย ซึ่งหลังจากนี้ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากการสอบถามของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า เล้าไก่ร้างกลางสวนยางพาราดังกล่าว เจ้าของสวนไม่ได้เข้ามาดูแล ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของลูกจ้างเป็นผู้ดูแล ซึ่งมีบ้านพักห่างจากสวนยาง ดังนั้นเล้าไก่ร้างจึงเป็นที่มั่วสุมของเหล่าวัยรุ่นขับรถเข้า-ออก อยู่ตลอดเวลาช่วงเกิดเหตุมีฝนตกติดต่อกันหลายวัน ลูกจ้างไม่ได้เข้ามากรีดยาง ประกอบกับสวนดังกล่าวไม่เป็นทางผ่านของคนเดินทาง จึงทำให้ไม่มีใครพบเห็นศพจนกระทั่งเริ่มเน่า

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งประเด็นชู้สาวและประเด็นขัดแย้งส่วนตัว พร้อมกับส่งศพไปผ่าพิสูจน์เพื่อนำเอาหัวกระสุนที่ฝังร่างมาพิสูจน์ชนิดของอาวุธปืน เพื่อนำไปสู่การติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดดีต่อไป