สถาบันคุ้มครองเงินฝากปรับปรุงงานภายในรองรับกฏหมายใหม่

สถาบันคุ้มครองเงินฝาก เร่งปรับปรุงระบบการทำงานภายใน และ เตรียมออกกฏหมายลูกอย่างน้อย 5 ฉบับ รองรับการบังคับใช้ พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝากฉบับใหม่

วันที่ 21 ต.ค.60 นายสาทร โตโพธิ์ไทย ผู้อำนวยการ สถาบันคุ้มครองเงินฝาก หรือ สคฝ. เปิดเผยว่า การแก้ไข พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝากที่ผ่านความเห็นชอบวาระ 2 และ 3 จากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. และ จะมีผลบังคับใช้ทันทีเมื่อลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

โดยขณะนี้ สคฝ. ได้เร่งปรับปรุงระบบงานภายในรวมทั้งระบบไอที รองรับการจ่ายเงินคืนผู้ฝากเงินแบบอัตโนมัติภายใน 30 วันหากเกิดกรณีสถาบันการเงินล้มใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว จากกระบวนการในกฏหมายเดิมต้องใช้เวลานานถึง 160 วัน

นอกจากนี้สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ยังได้เตรียมออกประกาศคณะกรรมการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก หรือ กฏหมายลูก อีกอย่างน้อย 5 ฉบับในวันที่ พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก มีผลบังคับใช้ โดยครอบคลุม 5 เรื่องหลัก ประกอบด้วย เงื่อน ไขหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจ่ายคืนเงินผู้ฝาก เงื่อนไขหลักเกณฑ์การกู้ยืมเงินของ สคฝ. เงื่อนไขหลักเกณฑ์การให้ประชาชนยื่นข้อโต้แย้ง กรณีได้รับเงินแต่ไม่ถูกต้อง หรือกรณีไม่ได้รับเงิน ซึ่งการแก้ไขกฏหมายฉบับดังกล่าวเป็นไปตามหลักสากล

ขณะที่ นายสาทร ระบุว่า ปัจจุบันเงินนำส่งสมทบของเข้ากองทุนคุ้มครองเงินฝากที่ได้จากสถาบันการเงิน มียอดรวมกว่า 120,000 ล้านบาท ซึ่งในอนาคตจะสะสมมากขึ้นมากพอที่จะรองรับการจ่ายผู้ฝากเงินหากเกิดวิกฤติธนาคารล้มได้ โดยหลังวันที่ 11 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป สคฝ. จะคุ้มครองเงินฝากเหลือบัญชีละ 1 ล้านบาทต่อสถาบันการเงิน ซึ่งถือได้ว่าครอบคลุมผู้ฝากเงินรายย่อยที่มีสัดส่วนมากถึงร้อยละ 98 ของจำนวนบัญชีเงินฝากทั้งระบบ