svasdssvasds

แจ้งเกิดไม่ง่าย! ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ ไม่ถูกจริตคนไทย

แจ้งเกิดไม่ง่าย! ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ ไม่ถูกจริตคนไทย

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

 

“อีวี” เจองานยาก! หลังข้อมูลวิจัยชี้ “คนไทย” ยังเลือกซื้อรถ เพราะเน้นราคาขายต่อ แถมยอมจ่ายเพิ่มไม่เกิน 2 แสนบาท หากซื้อ “รถพลังไฟฟ้า” แทนรถเครื่องยนต์” ด้าน กูรูยานยนต์ ระบุ หากสนับสนุนการผลิตอีวีเร็วเกินไป ซัพพลายเออร์ปรับตัวไม่ทัน ดีลเลอร์รายได้หดหาย

 

แจ้งเกิดไม่ง่าย! ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ ไม่ถูกจริตคนไทย

 

จากเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้ ‘ยานยนต์พลังไฟฟ้า’ เป็นโปรดักต์แชมเปี้ยนตัวที่ 3 ต่อจากปิกอัพและอีโคคาร์ พร้อมปูพรมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน หรือสถานีชาร์จไฟทั่วประเทศ และตั้งเป้าหมายภายในปี 2579 ต้องมีรถพลังไฟฟ้า (อีวีและปลั๊ก-อินไฮบริด) วิ่งบนท้องถนนเมืองไทยถึง 1.2 ล้านคัน

แม้จะเป็นการเตรียมงานวางแผนในระยะยาว เพื่อไม่ให้ประเทศไทยตกขบวนเทคโนโลยี และสร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างยั่งยืน แต่ยังมีเสียงจากหลายภาคส่วนกังวลถึงการมาของ ‘อีวี’ ว่า มีโอกาสกระทบผู้ประกอบการและผู้บริโภคในหลาย ๆ มิติ

โดยกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วน (ซัพพลายเออร์) อาจเจอผลกระทบเป็นลำดับแรก ๆ หากอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเดินหน้าเข้าสู่ ‘รถพลังไฟฟ้า’ ที่ใช้ชิ้นส่วนการผลิตน้อยกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปภายใน เพราะการขับเคลื่อนมีเพียงมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่เป็นหลัก ต่างจากรถแบบเดิมที่ต้องมีชุดขับเคลื่อนซับซ้อนมากมาย

 

แจ้งเกิดไม่ง่าย! ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ ไม่ถูกจริตคนไทย

 

รายงานของสมาคมชิ้นส่วนยานยนต์ไทย ระบุว่า การที่ไทยเลือกเป็นฐานการผลิต ‘รถพลังไฟฟ้า’ จะมีผลกระทบกับชิ้นส่วน 49 รายการ กระทบซัพพลายเออร์รวม 816 บริษัท และแรงงานกว่า 3 แสนคน

นายธิบดี หาญประเสริฐ นายกสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ไทย เปิดเผยว่า รัฐบาลควรก้าวให้ถูกจังหวะสำหรับการสนับสนุน ‘รถพลังงานไฟฟ้า’ ไม่เช่นนั้นจะส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในภาพใหญ่ รวมถึงการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลเองและความมั่นคงด้านพลังงาน

โดยอุตสาหกรรมของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์แบบเดิมและแรงงานในส่วนนี้จะได้รับผลกระทบ หากเปลี่ยนแปลงจากรถเครื่องยนต์สันดาปภายในไปสู่ ‘รถพลังไฟฟ้า’ เร็วเกินไป เช่นเดียวกับรายได้รัฐบาลจะหายไปจากการจัดเก็บภาษีนำเข้าน้ำมัน และภาษีจากราคาขายปลีก ทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม สรรพสามิต และภาษีเทศบาล รวมถึงกองทุนน้ำมัน

 

แจ้งเกิดไม่ง่าย! ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ ไม่ถูกจริตคนไทย

 

นอกจากนี้ มีรายงานในสหรัฐอเมริกาว่า หาก ‘อีวี’ มาทดแทนรถยนต์แบบเดิม ธุรกิจดีลเลอร์ที่เป็นคู่ค้ากับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จะอยู่ไม่ได้แน่นอน เพราะในปัจจุบันรายได้ 75% มาจากการบริการหลังการขาย (ซ่อมบำรุง ดูแลรักษา) ซึ่ง ‘อีวี’ แทบจะไม่มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง และยังไม่นับการมาของแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ที่ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ตได้

ดร.พิมลวรรณ มหัจฉริยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางของรถพลังไฟฟ้า ‘อีวี’ กับประเทศไทย อาจจะก้าวไปไม่เร็ว ส่วนหนึ่งเพราะคนยังกังวลเรื่องราคา ระยะทางที่วิ่งได้ และความสะดวกในการชาร์จไฟ ขณะเดียวกันพฤติกรรมการซื้อรถของคนไทย ยังคิดถึงบริการหลังการขายเป็นหลัก เช่น ราคาอะไหล่จะแพงไหม รวมถึงราคาขายต่อ ที่สำคัญ ผลวิจัยของศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า ลูกค้ายอมจ่ายส่วนต่างเพิ่มขึ้น 50,000-200,000 บาท ถ้าต้องซื้อรถที่มาพร้อมเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า

“ถ้าคนจะซื้อรถพลังไฟฟ้า จะยอมรับราคาที่เพิ่มขึ้นกว่ารถยนต์ในรูปแบบเดิมไม่เกิน 200,000 บาท ซึ่งในความเป็นจริง ราคาของอีวียังสูงอยู่มาก” ดร.พิมลวรรณ กล่าว

 

แจ้งเกิดไม่ง่าย! ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ ไม่ถูกจริตคนไทย

 

ทั้งนี้ ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2017 นิสสันนำ ‘ลีฟ ใหม่’ มาอวดโฉม แต่ยังไม่ประกาศราคาขายและไม่ระบุเวลาในการทำตลาดที่แน่นอน

“ถามว่า ไทยพร้อมหรือยังสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ในแง่ลูกค้าต้องตอบว่า ยัง แต่ถ้าถามถึงประโยชน์ นิสสันต้องบอกว่า พร้อม แต่รถยนต์ไฟฟ้าไม่ใช่ทุกคำตอบในการใช้งาน โดยรถแบบนี้จะเหมาะกับการใช้งานในเมืองใหญ่ และอาจจะไม่เหมาะสมกับการเดินทางระยะไกล ๆ ในต่างจังหวัด เนื่องจากต้องคำนึงถึงระยะทางวิ่งและการชาร์จไฟ” นายอันตวน บาร์เตส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

“แม้เรายังไม่สามารถเปิดเผยราคารถในงานนี้ได้ แต่เราได้นำรถยนต์ไฟฟ้าและอี-พาวเวอร์มานำเสนอให้ทุกคนได้เห็นเทคโนโลยีว่า มันมีหลายสเต็ป และพยายามอย่างเต็มที่ในการเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าในประเทศไทย อย่างไรก็ดี การพิจารณาต่าง ๆ ยังต้องใช้เวลาอีกสักนิด”

 

แจ้งเกิดไม่ง่าย! ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ ไม่ถูกจริตคนไทย

 

น.ส.ธันยนันท์ ลีนุตพงษ์ กรรมการบริหาร บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ฯ ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์เกียในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัว ‘โซล อีวี’ เป็นครั้งแรกในอาเซียน พร้อมราคา 2.297 ล้านบาท

สำหรับ ‘โซล อีวี’ เป็นรถพลังไฟฟ้า 100% สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 145 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 11.2 วินาที ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 250 กม. พร้อมการรับประกัน 5 ปี หรือ 1.5 แสนกิโลเมตร โดยตั้งเป้าขาย 5 คัน ในปีหน้า

“เดิมเราต้องการขาย โซล อีวี ในราคาที่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท แต่เนื่องจากมีหลายปัจจัย ทำให้ราคาต้องอยู่ที่ 2.297 ล้านบาท ซึ่งเร็ว ๆ นี้ อาจมีความคืบหน้าเกี่ยวกับบริษัทแม่ที่จะเข้ามาตั้งโรงงานหรือใช้ฐานประกอบจากประเทศในอาเซียน ซึ่งมีผลด้านราคาขายที่จะทำให้ โซล อีวี แข่งขันได้ในอนาคต”​ น.ส.ธันยนันท์ กล่าว

 

 

-----

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,322 วันที่ 14-16 ธ.ค. 2560 หน้า 33

 

related