svasdssvasds

"ทุเรียนไทย" เนื้อหอม! อีคอมเมิร์ซจีนแข่งซื้อ

"ทุเรียนไทย" เนื้อหอม! อีคอมเมิร์ซจีนแข่งซื้อ

บริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหญ่จากจีน คู่แข่งของอาลีบาบา ทำสัญญาซื้อทุเรียนจากผู้ส่งออกรายใหญ่ของไทยอีกหนึ่งราย โดยปริมาณรับซื้ออยู่ที่ 120 – 160 ตันต่อวัน

ผลผลิตทุเรียนสำหรับส่งออกของไทย ได้เข้าไปทำตลาดบนอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากจีนอีกหนึ่งราย คือ JD.com คู่แข่งรายสำคัญของ อาลีบาบา โดยบริษัทที่ร่วมลงนามกับเจดีดอทคอม คือ บริษัท ควีน โฟรเซ่นฟรุต ทำธุรกิจส่งออกผลไม้ และเป็นห้องเย็นอยู่ในตลาดไท โดยการลงนามความร่วมมือในบันทึกข้อตกลง หรือ เอ็มโอยู ในครั้งนี้ เจดีดอทคอม รับซื้อที่ 120-160 ตันต่อวัน

นายชานนท์ สงบจิต กรรมการบริษัท ซุปเปอร์ ฟรุต ไทยแลนด์ ผู้ส่งออกทุเรียนให้เว็บไซต์ทีมอลล์ ในเครืออาลีบาบา ยังไม่ประเมินว่าการเข้ามาของเจดีดอทคอม จะส่งผลให้การแข่งขันสูงขึ้นหรือไม่ ส่วนราคาทุเรียนที่จันทบุรี ราคารับซื้อหน้าสวนแพงขึ้น โดยขยับมาอยู่ที่ 80-90 บาทต่อกิโลกรัม

ข้อมูลตรงกับของนายมณฑล ปริวัฒน์ รองนายกสมาคมผู้ประกอบการส่งออกทุเรียน จันทบุรี ที่ระบุว่า ราคารับซื้อทุเรียนหมอนทอง หน้าสวนอยู่ที่ 80 บาทต่อกิโลกรัม และราคาที่ล้งรับซื้อผ่านพ่อค้าคนกลางอยู่ที่กิโลกรัมละ 82-85 บาท ขึ้นอยู่กับความสวยงามของลักษณะทุเรียนที่คัดเกรด

สำหรับช่องทางในการรับซื้อทุเรียนเพื่อส่งออก ปัจจุบันมีต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมาก 70% ของเปิดบริษัทรับซื้อที่ไทยในลักษณะของล้งทุเรียน ที่เหลือรับซื้อ-ขายผ่านตลาด E-Commerce

ข้อมูลจากกรมการค้าภายใน ณ วันที่ 2 พฤษภาคม พบว่าราคาขายปลีกทุเรียนพันธุ์หมอนทองยังทรงตัวอยู่ที่กิโลกรัมละ 110-130 บาท พันธุ์ชะนี กิโลกรัมละ 80-110 บาท แต่ถ้าเทียบกับวันที่ 24 เมษายน ราคาลดลง โดยทุเรียนหมอนทองก่อนหน้านี้กิโลกรัมละ 120-140 บาท พันธุ์ชะนี 80-120 บาท ต่อกิโลกรัม สาเหตุที่ราคาแพงในช่วงแรกเพราะเป็นช่วงต้นฤดู

[gallery columns="2" size="full" ids="250410,250411,250412,250413,250414"]

related