กสทช.ขยายเวลาแจ้งขอใช้สิทธิ์โทรฟรี - เน็ตฟรี อีก 7 วัน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุปาบึก ว่าขณะนี้มีคนเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก การจะทำให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความรวดเร็วทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ จึงกำลังจัดทำแผนเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งรัฐบาลจะบูรณาการทุกภาคส่วน และวางแผนว่าจะทำพื้นที่ใดก่อน เพื่อไม่ให้มีพื้นที่ใดถูกหลงลืม ดังนั้น หากใครเดือดร้อนมากให้ไปแจ้งกับศูนย์ดำรงธรรม หรือศูนย์ต่างๆในพื้นที่ หรือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด และอยากฝากหน่วยงานในพื้นที่ให้ทำความเข้าใจว่ากำลังวางแผนซ่อมแซมและบริหารจัดการคน เพราะต้องสร้างระบบการทำงานที่ต่อเนื่อง

 นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณทุกการบริจาคช่วยเหลือ และยืนยันว่ารัฐบาลยังใช้งบประมาณของประเทศในการช่วยเหลือครั้งนี้ด้วย ไม่ใช่ไม่มีเงินอย่างที่หลายฝ่ายกล่าวหา ซึ่งคนที่พูดเช่นนั้น ถือว่าพูดไม่สร้างสรรค์ หลายสื่อเจาะประเด็นความลำบากของประชาชน ซึ่งเห็นแล้วไม่สบายใจ เพราะบางเรื่องไร้สาระ ทำให้คนมองว่ารัฐบาลไม่ทำงานและทำงานไม่ดี จนต้องตั้งกองทุนเรี่ยรายเงินขึ้นมาช่วยเหลือรัฐบาล พร้อมย้ำว่าไม่สามารถทำได้คนเดียว หากใครอาสาทำคนเดียวได้ให้มาบอก จะมอบหน้าที่ให้ ดังนั้นฝากสื่อมวลชนให้เขียนข่าวอย่างระมัดระวัง

 ขณะที่ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. แถลงผลการหารือร่วมกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 5 ราย ได้แก่ AIS  DTAC TRUE CAT และ TOT ว่าที่ประชุมมีมติในการเยียวยาผู้ประสบภัยพายุปาบึกในพื้นที่ภาคใต้ จากเดิมคือให้โปรโมชั่นโทรฟรี 50 นาที และใช้อินเทอร์เน็ตฟรี 1 กิกะไบต์ ในช่วงวันที่ 4-6 มกราคม ที่ผ่านมา โดยให้ขยายระยะเวลาการขอใช้สิทธิ์ไปอีก 7 วัน คือวันที่ 10-16 มกราคม 2562 ซึ่งผู้ใช้บริการที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิ์ สามารถติดต่อโอเปอเรเตอร์ผู้ให้บริการเพื่อขอรับสิทธิ์ดังกล่าวได้ สำหรับจำนวนลูกค้าใช้งานในพื้นที่นครศรีธรรมราชและจังหวัดข้างเคียงของผู้ให้บริการแต่ละราย แบ่งเป็น AIS จำนวน 700,000 เลขหมาย มีผู้ขอใช้สิทธิ์แล้ว 90% TRUE 600,000 เลขหมาย มีผู้ขอใช้สิทธิ์แล้ว 80-90% และ DTAC 300,000 เลขหมาย มีผู้ขอใช้สิทธิ์แล้ว 20% ขณะที่ TOT มี 4,000 เลขหมาย และ CAT กว่า 1,000 เลขหมาย

 นายฐากร กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาโอเปอเรเตอร์ทุกรายให้ความร่วมมือในการเยียวยาผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ และจำนวนผู้ได้รับผลกระทบมีไม่มากเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมด เนื่องจากที่ผ่านมามีการเตรียมการเป็นอย่างดีทั้งเรื่องแบตเตอรี่สำรอง และรถโมบายในพื้นที่สำคัญอย่างโรงพยาบาลและศูนย์อพยพ ให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง