อาหารทะเลราคาพุ่ง เหตุเรือประมงออกไปจับสัตว์น้ำไม่ได้เนื่องจากพายุ

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจตลาดสดเทศบาลนครตรัง ในตัวเมืองทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง พบว่าแผงจำหน่ายสัตว์น้ำทะเลมีเพียงไม่กี่แผงที่เปิดวางจำหน่ายสัตว์น้ำทะเลในช่วงนี้ ส่งผลให้บรรยากาศการจับจ่ายซื้อสัตว์น้ำทะเล เช่นปลา กุ้งทะเล ปูและหมึก ค่อนข้างเงียบเหงา นอกจากราคาสัตว์น้ำทะเลทุกชนิดพุ่งขึ้นเป็นเท่าตัว แต่ก็มีสัตว์น้ำทะเลเข้ามาตลาดช่วงนี้น้อยมากเช่นเดียวกัน ส่วนหนึ่งมาจากพิษพายุโพดุลที่ส่งผลกระทบทำให้เรือประมงไม่สามารถออกจับสัตว์น้ำทะเลได้ และผลกระทบอีกส่วนหนึ่งมาจากประชาชนไม่มีเงินในการออกมาจับจ่ายซื้อสินค้า เพราะฝนตกบ่อยกรีดยางไม่ได้ทำให้ขาดรายได้ ประชาชนจำเป็นต้องประหยัดและลดค่าใช้จ่าย

อย่างเช่นที่ท่าเทียบเรือประมงชายฝั่ง บริเวณท่าขยง บ้านน้ำราบ อ.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง ได้มีเรือประมงชายฝั่งนับร้อยลำ ซึ่งเป็นเรือประมงขนาดเล็กชายฝั่ง ทั้งเรือตกหมึก อวนปู และตกกุ้ง มาจอดเรียงรายเพื่อหลบคลื่นลม ที่มีความรุนแรงและสูงในช่วงนี้ และยังส่งผลให้แม่บ้านกว่า 10 คน ซึ่งมีอาชีพคัดแยก ปู ปลา และกุ้ง ที่จับได้จากทะเลในแต่ละวัน ต้องตกงานไปด้วย เพราะเรือไม่สามารถออกจับสัตว์น้ำได้ในช่วงนี้ ส่งผลให้ขาดรายได้ในการดำรงชีพประจำวันเป็นอย่างมาก

นางอัจฉรา ล้อมคง อยู่บ้านเลขที่ 211 หมู่ที่ 11 ต.นาท่ามใต้ อ.เมือง จ.ตรัง แม่ค้าแผงจำหน่ายอาหารทะเลสด กล่าวว่า ผลกระทบจากพิษพายุโพดุลทำให้สัตว์น้ำทะเลลดลงเนื่องจากเรือประมงออกจับปลาไม่ได้ ส่งผลให้ราคาสัตว์น้ำทะเลปรับตัวสูงขึ้น 10%-20 % ราคาเพิ่มสูงขึ้นประชาชนไม่มีกำลังซื้อ ซึ่งคาดว่าหากหมดพายุคลื่นลมแรงชาวประมงออกจับสัตว์น้ำได้เหมือนเดิม และจะทำให้ราคาคงจะลดต่ำลง ซึ่งในขณะนี้ราคาสัตว์น้ำ เช่น ปลาทู กิโลกรัมละ 130 บาท ปลาสาก กิโลกรัมละ 120 บาท กุ้ง กิโลกรัมละ 320 บาท ปลาข้างปาน กิโลกรัมละ 130-140 บาท ปลามง ราคากิโลกรัมละ 160 บาท ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าผลกระทบส่วนหนึ่งมาจากประชาชนไม่มีกำลังซื้อเพราะเศรษฐกิจย่ำแย่ ต่างต้องรัดเข็มขัดประหยัดลดค่าใช้จ่าย แม่ค้าในตลาดต้องนั่งเงียบเหงาเพราะลูกค้าหายไปเกือบหมด