svasdssvasds

'คอนโด' แนวรถไฟฟ้าล้น! สิ้น มิ.ย. เหลือกว่า 2 หมื่นยูนิต

'คอนโด' แนวรถไฟฟ้าล้น! สิ้น มิ.ย. เหลือกว่า 2 หมื่นยูนิต

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

 

“คอลลิเออร์ส” วิเคราะห์ตลาดคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้า ปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา มีสินค้าเหลือขายไม่น้อยกว่า 2 หมื่นหน่วย โครงการในเส้นทางปัจจุบันมีเปอร์เซ็นต์การขายสูงสุดเฉียด 80% “อนันดา” เป็นผู้ประกอบการที่จำนวนโครงการและหน่วยขายนำโด่งอันดับ 1

 

'คอนโด' แนวรถไฟฟ้าล้น! สิ้น มิ.ย. เหลือกว่า 2 หมื่นยูนิต

 

ปัจจุบันไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เส้นทางรถไฟฟ้า หรือ รถไฟใต้ดิน ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ตลาดคอนโดมิเนียมขยายตัวอย่างมากมาย โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟฟ้าหรือรถไฟใต้ดินที่เปิดให้บริการแล้ว ย่อมเป็นที่สนใจของทั้งผู้ประกอบการและผู้ซื้อเป็นเรื่องธรรมดา

ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย สำรวจจำนวนคอนโดมิเนียมที่ยังเปิดการขายอยู่ ณ ช่วงปลายเดือน มิ.ย. 2560 มีคอนโดมิเนียมเหลือขายอยู่ในตลาดไม่น้อยกว่า 20,200 ยูนิต แม้อัตราการขายอาจจะสูงถึง 79% ก็ตาม แต่ด้วยจำนวนโครงการที่เปิดขายในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้มีหลายร้อยโครงการ จำนวนยูนิตมากกว่า 300,000 ยูนิต

“ยูนิตที่เหลือขายในปัจจุบัน อาจจะไม่ได้มากอะไร ถ้าราคาขายไม่ได้สูงเกินไป แต่ต้องไม่ลืมว่า กรุงเทพมหานครยังมีเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างรวมไปถึงที่กำลังจะสร้างอีกหลายเส้นทางในอนาคต” นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส กล่าว

นอกจากพื้นที่ตามแนวเส้นทางที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน เส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างเป็นอีกทำเลที่ผู้ประกอบการและผู้ซื้อให้ความสนใจ เพราะว่าโครงการเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างนั้น สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการรวมไปถึงผู้ซื้อได้ระดับหนึ่งแล้วว่า โครงการเส้นทางรถไฟฟ้านั้น ๆ สร้างเสร็จแน่นอน เพราะการก่อสร้างเดินหน้าไปแล้วนั่นเอง อีกทั้งราคาขายของคอนโดมิเนียมก็สูงขึ้นต่อเนื่องตามราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นซึ่งผันแปรกับความคืบหน้าในการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้า

 

'คอนโด' แนวรถไฟฟ้าล้น! สิ้น มิ.ย. เหลือกว่า 2 หมื่นยูนิต

 

ดังนั้น พื้นที่นี้เป็นทำเลที่มีคอนโดมิเนียมเหลือขายมากเป็นลำดับที่ 2 คือประมาณ 8,760 ยูนิต อัตราการขายในพื้นที่นี้อยู่ที่ประมาณ 76% พื้นที่ที่ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการค่อนข้างมาก คือ พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวตอนเหนือ และสายสีน้ำเงินมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายต่อเนื่อง และมีอีกหลายโครงการที่มีแผนจะเปิดขายโครงการใหม่ในอนาคต

ส่วนพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่ยังไม่เริ่มการก่อสร้างแต่มีการอนุมัติและมีแผนจะเริ่มการก่อสร้างภายในปีนี้ คือ สายสีส้ม สีเหลือง และสีชมพู ซึ่งบางพื้นที่ของทั้ง 3 เส้นทาง เป็นทำเลที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายมาก่อนหน้านี้แล้วจำนวนหนึ่งทำให้จำนวนคอนโดมิเนียมรวม และเหลือขายค่อนข้างมาก คือ มีคอนโดมิเนียมเหลือขายประมาณ 4,920 ยูนิต อัตราการขายในพื้นที่อยู่ที่ประมาณ 80% โดยทำเลที่มีคอนโดมิเนียมเปิดขายมากที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาในพื้นที่นี้ คือ พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตั้งแต่สถานีศูนย์วัฒนธรรมไปจนถึงช่วงต้นของถนนรามคำแหง ซึ่งมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายมาต่อเนื่องในช่วง 1–2 ปีที่ผ่านมา ส่วนพื้นที่ตามแนวเส้นทางสายสีชมพูและเหลือง อาจจะมีโครงการคอนโดมิเนียมเพียงแค่บางทำเลเท่านั้น

นายสุรเชษฐ กล่าวเสริมว่า ผู้ประกอบการที่มีจำนวนโครงการและยูนิตเปิดขายสูงสุด 5 อันดับแรก ในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้วนั้น บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) มีจำนวนโครงการและจำนวนหน่วยเปิดขายมากที่สุดเป็นอันดับ 1 คือ 20 โครงการ รวม 16,130 หน่วย อีก 4 บริษัทก็มี บริษัท เอพี(ไทยแลนด์) จำกัด(มหาชน), บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน), บริษัท ศุภาลัย จำกัด(มหาชน) และบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) ตามลำดับ

ทั้งนี้ 5 บริษัทที่กล่าวมามีจำนวนหน่วยเปิดขายรวมกันประมาณ 37,705 หน่วยจากทั้งหมด 64 โครงการ ผู้ประกอบการบางรายอาจจะมีจำนวนโครงการที่ไม่ได้น้อยไปกว่าอันดับที่ 4–5 แต่ว่าเป็นโครงการขนาดไม่ใหญ่ทำให้จำนวนยูนิตอาจจะแตกต่างกันเยอะ และถ้านับรวมเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายหรือเส้นทางใหม่ที่กำลังก่อสร้างอยู่ ก็อาจจะมีผู้ประกอบการรายอื่นๆ เข้ามาใน 5 อันดับแรก เพราะบางรายเปิดขายโครงการใหม่ต่อเนื่องในพื้นที่ดังกล่าวในช่วง 2–3 ปีที่ผ่านมา และมีแผนเปิดขายโครงการใหม่ในพื้นที่อื่น ๆ เช่นกันและบางรายอาจจะเปิดขายโครงการมากขึ้นในช่วง 1–2 ปีที่ผ่านมานี่เอง

 

related