'แบงก์ชาติ' แนะเอกชนบริหารรับมือความเสี่ยง เหตุเงินบาทแข็งค่าตามภูมิภาค

วันนี้ (11 มิ.ย. 63) นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายสื่อสาร และความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยถึงข้อมูลการแข็งค่าของเงินบาทว่า ในช่วงนี้เป็นการแข็งค่าในทิศทางเดียวกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาค ตั้งแต่สิ้นเดือน พ.ค. กระทั่งปัจจุบัน เงินบาทแข็งค่าขึ้น 2.71% เป็นรองจากเงินรูเปียอินโดนีเซีย และเงินวอนเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นสาเหตุมาจากการที่เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง

ด้านเงินทุนไกลเข้าประเทศในช่วงที่ผ่านมานั้น ส่วนใหญ่เป็นเงินไหลกลับไปของนักลงทุนที่เป็นทั้งนักลงทุนไทย และกองทุนต่างๆ ที่มีการลงทุนในต่างประเทศ โดย ณ ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติเริ่มมีการกลับมาลงทุน ทั้งในตลาดหุ้น และพันธบัตรแล้ว แม้ยังไม่มากนัก

ทั้งนี้สภาวะเศรษฐกิจ ตลาดการเงินทั้งของโลก และของไทยเองยังไม่มีความแน่นอนมากนัก อาจส่งผลต่อค่าเงินทำให้ผันผวนได้ จึงแนะนำให้ผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจระหว่างประเทศระวังความเสี่ยงจากความผันผวนดังกล่าวอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการอ้างอิง และทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินดอลลาร์ เพียงสกุลเดียว

ส่วนการซื้อขายกันเองในภูมิภาคนั้น ขอให้พิจารณาสกุลเงินที่เคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกันเพื่อกำหนดราคาสินค้า ซึ่งจะช่วยลดการผันผวนของรายรับในสกุลเงินบาทได้ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่สถาบันการเงินให้บริการอยู่แล้วด้วย