"คิงเพาเวอร์" คว้าประมูลดอนเมือง    

คิงเพาเวอร์ชนะประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ สนามบินดอนเมือง ทั้งคะแนนเทคนิคและเสนอค่าตอบแทนสูงสุด ทิ้งห่างคู่แข่งขาดลอย ด้านเดอะมอลล์เสียงอ่อยเกณฑ์คัดเลือกครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน แต่ยังสนใจแข่งในพื้นที่อื่น 

วันที่ 22 ก.ค.60 นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. (AOT) เปิดเผยกับนสพ. “ฐานเศรษฐกิจ” สื่อในเครือสปริง กรุ๊ป ว่า ในการเปิดซองเสนอค่าตอบแทนการคัดเลือกผู้ประกอบการเพียง 1 ราย เข้าบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ 1,922.78 ตารางเมตร ภายในอาคารผู้โดยสารระหว่างประ เทศ อาคาร 1 ท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2560 ผู้ชนะการประกวดราคาคือ บริษัท คิงเพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด    

โดยเสนอราคาเข้ามาสูงที่สุด สูงกว่าผู้ชนะรายที่ 2 มาก รวมถึงสูงกว่าราคากลางที่ ทอท.กำหนดไว้ที่ 6,000 บาทต่อตารางเมตรไว้มากด้วยเช่นกัน โดย ทอท.พร้อมจะเปิดเผยราคาค่าตอบแทนและข้อพิจารณา ภายหลังจากการนำเรื่องเสนอบอร์ด ทอท.พิจารณาในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ โดยเกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือกผู้ประกอบการ ในการบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ในครั้งนี้ จะมีทั้งคะแนนด้านเทคนิค และคะแนนราคา ซึ่ง คิงเพาเวอร์ เป็นผู้ชนะทั้งคะแนนด้านเทคนิค และด้านราคา โดยเสนอค่าตอบแทนให้ทอท.สูงสุด 

“ที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า การพิจารณาคัดเลือกผู้ประกอบการในครั้งนี้ ทอท.ใช้เกณฑ์การเสนอค่าตอบแทนสูงสุดควบคู่กับแผนธุรกิจ (Business Plan) ในสัดส่วน 20 : 80 ดังนั้นแม้ผู้ร่วมประมูลจะเสนอให้ค่าตอบแทนสูง แต่เมื่อแผนธุรกิจได้คะแนนตํ่า ก็อาจไม่ใช่ผู้ชนะ การวิจารณ์เป็นเรื่องปกติ ใครอยากคิดอะไรก็คิดได้ แต่สุดท้ายตัวเลขก็จะตรวจสอบได้”   

แหล่งข่าวระดับสูงจาก ทอท. เผยว่า โครงการนี้ เป็นการคัดเลือกผู้ประกอบการเพียง 1 รายเข้าบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ในพื้นที่ สัญญา 10 ปีซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ร้านค้าต่างๆ  ของผู้ประกอบการรายย่อยที่จะหมดสัญญากับ ทอท.ในวันที่ 30 กันยายนนี้ 

ทั้งนี้ ผู้ที่ได้คะแนนเป็นอันดับ 2 คือ เดอะมอลล์ ที่เคยชนะประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ บนพื้นที่ 2,700 ตารางเมตรภายในสนามบินดอนเมือง เมื่อ 5 ปีก่อน ส่วนผู้ประกอบการรายอื่นที่เข้ามาซื้อซองประกวดราคาและยื่นประกวดราคา คือไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลและกลุ่มเซ็นทรัล 

ผลการดำเนินงานของท่าอากาศยานดอนเมือง ช่วง 8 เดือนของปีงบประมาณ 2560 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่า มีเที่ยวบินทั้งสิ้น 169,943 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 6.29% มีผู้โดยสาร 24.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.36% และการขนถ่ายสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ จำนวน 47,032 ตัน เพิ่มขึ้น 13.08% ตารางบินปัจจุบัน มีสายการบินแบบประจำใช้บริการรวม 13 สายการบิน เป็นเส้นทางบินระหว่างประเทศ 13 สายการบิน และให้บริการเส้นทางบินภายในประเทศ 3 สายการบิน 

เดอะมอลล์ขอสู้ครั้งหน้า 

นายไพบูลย์ กนกวัฒนาวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า บริษัทก็ยังสนใจหากมีการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์อื่นๆ ที่จะมีขึ้นในอนาคต เช่น  จังก์ชั่น เทอร์มินอล ภายในสนามบินดอนเมือง (อาคารสถานเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีแดง) เป็นต้น เพราะครั้งนี้แม้เดอะมอลล์จะไม่ชนะ ธุรกิจเราก็ยังต้องเดินหน้าต่อไป และหากมีทำเลที่มีศักยภาพและมีโอกาสเราก็พร้อมจะเข้าร่วมประมูลอีก  

การประมูลครั้งนี้ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขที่ผู้เข้าร่วมประมูลแต่ละรายนำเสนอ ดังนั้นหากเดอะมอลล์ซึ่งได้อันดับ 2 รองจากคิงเพาเวอร์ ต้องการรู้ผลคะแนนการประมูลจะต้องทำหนังสือเพื่อขอทราบข้อมูลต่างๆ เข้าไปยังบอร์ด ทอท. แตกต่างจากการประมูลครั้งก่อนที่เดอะ มอลล์ร่วมประมูลและเป็นผู้ชนะ ซึ่งครั้งนั้นใช้เกณฑ์การเสนอค่าตอบแทนสูงสุดเป็นตัวหลักในการพิจารณา และผู้ชนะจะนำเสนอแผนธุรกิจภายหลัง แต่ครั้งนี้ใช้เกณฑ์การเสนอค่าตอบแทนสูงสุดควบคู่กับแผนธุรกิจ ในสัดส่วน 20 : 80 ดังนั้นแม้ผู้ร่วมประมูลจะเสนอให้ค่าตอบแทนสูง แต่เมื่อแผนธุรกิจได้คะแนนตํ่า ก็อาจไม่ใช่ผู้ชนะ 

สำหรับเดอะมอลล์สกายพอร์ต บนพื้นที่ 2,700 ตารางเมตร ระยะแรกขาดทุน เพราะสนามบินให้บริการเฉพาะสาย การบินโลว์คอสต์ ผู้โดยสาร น้อยและยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า แต่ปัจจุบันเมื่อสายการบินต่างๆ เข้ามาเปิดและเพิ่มเที่ยวบินมากขึ้นมีผู้เข้ามาใช้บริการจำนวนมากและมียอดขายดีขึ้นอย่างมาก