svasdssvasds

บริสุทธิ์ใจ ! "ดิว อริสรา" ลั่นไม่ไกล่เกลี่ย "ซีแนม" โดนดิสเครดิตพ้อทำธุรกิจก็มีปัญหา

บริสุทธิ์ใจ ! "ดิว อริสรา" ลั่นไม่ไกล่เกลี่ย "ซีแนม" โดนดิสเครดิตพ้อทำธุรกิจก็มีปัญหา

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 16 ก.ค.ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง ศาลนัดชี้สองสถานและสืบพยานโจทก์ หมายเลขคดีดำที่ พ1044/2561 ที่ น.ส.นิชานันท์ หรือซีแนม งามสกุลรุ่งโรจน์ นักร้อง พร้อมพวกรวม 2 คน ยื่นฟ้อง น.ส.อริสรา หรือดิว ทองบริสุทธิ์ นักแสดงเซเลบ ชื่อดัง เป็นจำเลย เรื่องผิดสัญญา เรียกค่าเสียหายพร้อมคืนเงิน ภายหลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมลงทุนกันเปิดร้านทำเล็บ แต่ไม่สามารถเปิดได้ โดยคดีดังกล่าวเป็นการนัดสืบพยานครั้งแรก และเห็นว่าคดีน่าจะสามารถเจราจายอมความกันได้ จึงนัดไกล่เกลี่ยอีกครั้งในวันที่ 24 ส.ค.2561

ด้าน น.ส.นิชานันท์หรือซีแนม ที่เดินทางมาพร้อมกับทนายความ กล่าวว่าทางด้านตนเองพร้อมที่จะเจรจาและไกล่เกลี่ยอยู่แล้ว ไม่คิดที่จะฟ้องร้อง โดยในวันนี้ทางคู่กรณีได้เดินทางมาด้วยตัวเองแต่ยังไม่พร้อม ในวันนี้ทางคู่กรณียื่นคำให้การและศาลนัดที่จะไกล่เกลี่ยในวันที่ 24 ส.ค. สำหรับตนเองคิดว่าจริงๆแล้วเรื่องราวไม่ควรมาถึงขนาดนี้ ควรจะคุยกันได้ตั้งแต่หลายเดือนที่แล้ว แต่ในเมื่อคุยกันไม่ได้ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ส่วนเรื่องที่โพสต์ในไอจี ตนเองไม่ได้บอกว่าเป็นใคร แต่คู่กรณีเดินทางมาเอง ซึ่งตลอดเวลาที่อยู่ในศาลตนเองก็พยายามมองแต่ฝ่ายคู่กรณีไม่ได้สบตามองตนเองเลย จริงแล้วอยากให้น้องมาคุยกันตั้งแต่แรก เพราะคนในวงการเดียวกัน ตอนแรกเริ่มที่จะทำธุรกิจก็ตกลงกันด้วยใจ เวลาจะจบก็อยากให้จบด้วยใจ

ด้านน.ส.อริสรา หรือดิว ซึ่งเดินทางมาพร้อมทนายความเช่นกัน เปิดเผยว่า จริงๆ แล้ววันนี้เป็นนัดครั้งแรก ตนเองไม่จำเป็นต้องเดินทางมาก็ได้ แต่ตนเองอยากให้เกียรติศาลและเดินทางมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ ที่ผ่านมาไม่ได้ออกมาพูดเพราะกลัวว่าจะมีเรื่องราวอื่นตามมา จึงอยากที่จะให้เข้าสู่กระบวนการศาลก่อนถึงจะออกมาพูด ในส่วนที่ยังไม่มีการคืนเงินให้กับหุ้นส่วนเพราะว่ามันยังติดอีกคดีหนึ่ง ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล สำหรับเรื่องดังกล่าวเกิดจากตนพร้อมพวกรวม 5 คนได้หุ้นกันเปิดร้าน แต่มีปัญหาเรื่องสถานที่ คือเจ้าของสถานที่ไม่ยอมส่งมอบให้ ทำให้ไม่สามารถเปิดร้านได้ ซึ่งอยู่ในระหว่างฟ้องร้องดำเนินคดี ตนจึงยังไม่ได้คืนเงินให้ เพราะอยากให้เรื่องดังกล่าวจบลงก่อน ซึ่งหุ้นส่วนอีก 2 คนหนึ่งในนั้นคือหนูนา หนึ่งธิดา ก็เข้าใจ ซึ่งตนเองไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่คืนเงิน ซึ่งตนเองรับผิดชอบอยู่คนเดียว ฟ้องร้องอยู่คนเดียวโดยคดีดังกล่าวทางเราเรียกร้องค่าเสียหายไป 2 ล้านบาท ที่ต้องฟ้องร้องคนเดียวเพราะก่อนหน้านี้คู่กรณีเคยทวงถามเรื่องเงิน ทางเราก็มีการบอกไปว่าเรามีปัญหานี้นะ แล้วเราจะทำการฟ้องร้องแต่เค้าเลือกที่จะไม่ฟ้อง ซึ่งจริงอยู่ว่าเรามีกัน 5 หุ้น แต่ว่าตัวเราเองถือหุ้นกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของเงินที่ลงทุนไปทั้งหมด คิดเป็นเงินประมาณ 1 ล้านกว่าบาท ซึ่งแตกต่างจากคู่กรณีที่ลงคนละ 10 เปอร์เซ็นต์หรือประมาณ 2 แสน ซึ่งต้องเห็นใจตนบ้าง ถ้าตนถือหุ้นเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ตนก็คงจะไม่อะไรเพราะไม่อยากมานั่งเสียเวลาฟ้องร้องเหมือนกัน ในขณะเดียวกันตอนแรกที่ตกลงที่จะทำธุรกิจกัน มันควรจะเป็นไปตามสัดส่วนของการถือหุ้นรึเปล่า

“เรื่องดังกล่าวเคยคุยกันแล้ว แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ ก่อนหน้าที่จะมีการฟ้องร้อง เคยพูดคุยตกลงกัน แต่ทางฝ่ายคู่กรณีก็ไม่ยินยอม มีการต่อว่าด่าทอและมีการชี้หน้า พูดจาข่มขู่ว่าจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งหลังจากนั้นตนจึงมีการปรึกษาทนาย ตนยืนยันว่ามีการเจรจาพูดคุยแน่นอน อย่างไรก็แล้วแต่เวลานี้คดีเข้าสู่กระบวนการศาล ซึ่งจะมีการไกล่เกลี่ยกัน ทางเราก็พร้อมจะเจรจาถ้าทางคู่กรณีพร้อมที่จะรับเงื่อนไข ในส่วนที่คู่กรณีลงไอจีกล่าวหาว่าตนเองนำเงินไปทำอย่างอื่น เอาเงินไปใช้จัดปาร์ตี้ อยากจะบอกว่าตนเองเป็นคนที่ใช้เงินเก่ง แต่ก็เป็นคนที่หาเงินมาได้ ซึ่งเราก็ไม่ได้นำเงินส่วนนั้นออกมาใช้ ส่วนในกรณีที่บอกว่าเงินเพียงไม่กี่แสนทำไมไม่คืนจะได้จบ ไม่ต้องมาฟ้องร้อง ตนก็อยากจะบอกว่าประเด็นไม่ใช่เรื่องเงิน แต่มันมีอีกคดีหนึ่งอยู่แล้วเราไม่รู้ว่าจะยังไงต่อไป จะทิ้งทุนแยกไปเลย ส่วนกรณีหุ้นส่วนอีก 2 คนคือหนูนา หนึ่งธิดา ซึ่งเข้าใจและพร้อมที่จะร่วมธุรกิจต่อไป โดยก่อนหน้าเรามีการที่จะคืนเงิน แต่ทางหนูนากลับบอกว่าในเมื่อมันยังมีเรื่องแบบนี้จะให้ทิ้งกันได้ไง ส่วนหุ้นส่วนอีกคน เค้ามีปัญหาจริงๆ เค้าเดือดร้อนและได้มีการมาพูดคุยกัน และเค้าพร้อมที่จะทำเป็นสัญญากู้ยืมเงิน เราก็ได้คืนไปในรูปแบบนั้น ส่วนที่ไม่ได้ออกมาให้ข่าวตั้งแต่แรก เพราะเราอยากให้เรื่องราวเข้าสู่กระบวนการชั้นศาล เพราะที่ผ่านมาเราโดนดิสเครดิตมาเยอะมาก ถ้าพูดอะไรออกไป แก้ตัวอะไรเกรงว่าจะไปหมิ่นประมาทอีกฝ่าย เพราะทางคู่กรณีมีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี บางอย่างที่เราไม่ผิดอาจจะกลายเป็นผิดทันที เลยอยากให้เรื่องเข้าสู่กระบวนการ” นักแสดงเซเลบ กล่าว

น.ส.อริสราหรือดิว เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่าการทำธุรกิจเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและมีรายละเอียดเยอะพอสมควร วันนี้ที่ออกมาพูดก็ไม่ได้อะไร แค่อยากมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ ใครจะคิดยังไงก็ไม่โกรธ ส่วนการจะทำธุรกิจต่อหรือไม่นั้น ขอให้เรื่องดังกล่าวจบลงก่อน ค่อยคิดอีกที การเกิดเรื่องครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ ทำให้รู้ว่าบางครั้งเราก็คิดน้อยเกินไป

related