แน็ก เปิดใจหลังนายทุนสร้างหนังที่แสดงเกี่ยวโยงโกงแชร์ แม่มณี

กระแสหนุ่มมาดเซอร์ของ แน็ก ชาลี ยังอย่างแรงต่อเนื่องซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้หายหน้าหายตาไปบ้างแต่พักหลังๆที่เจ้าตัวกลับมาปังอีกครั้งด้วยเพราะความเซอร์ ติส กวนแบบฮาๆ ยิ่งทำให้มีคนติดตามมากขึ้นอีกทั้งเจ้าตัวยังมีผลงานเพลงที่แต่งและร้องเองผ่านช่องยูทูป จนพักหลังมานี่เจ้าตัวได้ออกสื่อมากขึ้น กระทั่งล่าสุดเจ้าตัวได้ไปรับเล่นภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ไปเกี่ยวพันธุ์กับ คดีดัง แชร์แม่มณี เจ้าตัวได้เปิดใจถึงกรณีที่ร่วมงานแสดงภาพยนตร์สยองขวัญคอเมดี้เรื่อง “เซนส์อาถรรพ์”  ที่ “แม่มณี” หรือ น.ส. วันทนีย์ ทิพย์ประเวช ซึ่งถูกหมายจับคดีโกงแชร์ลูกโซ่ เป็นนายทุนสร้าง

นักแสดงหนุ่มกล่าวว่า ตนขอตอบตามจริง เท่าที่ตอบได้ ซึ่งตนทราบข่าวก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะไม่ได้มีผลอะไรกับตนเอง คนที่กังวลน่าจะเป็นคนที่มีปัญหา ส่วนตัวไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว รู้เพียงว่าชื่อเล่นชื่อ “เดียร์” เพิ่งทราบเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (29 ต.ค.) ว่าเขาชื่อแม่มณี การถ่ายทำหนังของตน เพิ่งถ่ายไปได้แค่ 1 คิว ต่อไปก็ไม่รู้จะเป็นอย่างไร

"ผมเล่นหนังมาหลายปีแล้วเจอปัญหาทุกรูปแบบ ผมไม่เครียดแม้แต่นิดเดียวเลย อย่างเรื่องค่าตอบแทนที่ได้จากการทำงาน ผมได้รับมาบ้างแล้ว แต่สิ่งที่ผมคิดตอนนี้คือ ผมต้องเอาเงินไปคืนใครไหม คนที่น่าสงสารน่าจะเป็นทีมงาน น้อง ๆ นักแสดงใหม่ที่มีความหวังในการทำงาน ส่วนกลัวว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดไหม ตัวผมเองไม่กังวลอะไรนะครับ ผมไม่มีคอนแทคคุยกะผู้กำกับเลย น้อง ๆ นักแสดงก็ถามว่าผมหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ผมก็ตอบน้อง ๆ ไปว่าพี่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย พี่สงสารน้อง ๆ ทุกคน แต่ตัวพี่ไม่รับรู้อะไรเลย ไม่ต้องห่วงพี่นะ”

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า หลายคนมองว่าที่เขาทำหนังเรื่องนี้เพราะอยากไปโยงกับวงการแชร์เหมือนกัน แน็ค กล่าวว่า ตนไม่อยากพูดถึงใครมาก เพราะตนไม่รู้เรื่องเลยว่าใครทำอะไรบ้าง ใครเดือดร้อนอะไรบ้าง เอาตรง ๆ เวลาตนทำงานไม่เคยรู้ว่าเล่นหนังค่ายไหน ไม่อ่านบาทหนัง ไม่ถามชื่อคน ส่วนเรื่องที่มีคนเอาตนไปโยงกับเรื่องนี้เพื่อให้เป็นกระแส ตนไม่โกรธใคร เพราะสุดท้ายคนที่ทำก็จะโดนด่าเอง โยงมาเถอะ เพราะตนไม่เกี่ยวอะไรอยู่แล้ว หน้าที่ของตนคือทำงานหนังให้ดีที่สุดแค่นั้นเอง ตนมีโอกาสเจอพี่เขาบ้าง พอเรารู้ว่าเขาเป็นนายทุน เราก็สวัสดีนอบน้อมกับเขา ตนไม่เคยสังเกตว่าใครมีท่าทีแปลก ๆ อะไร มีแต่คนสังเกตุตน เพาะตนดูแปลกใช่ไหม”

นักแสดงหนุ่มยังกล่าวถึงเรื่องที่ทางตำรวจเตรียมเรียกไปให้ปากคำว่า เรียกได้เลย ถ้าว่างก็ไป แต่ก็พูดได้เท่าที่พูดตอนนี้  ส่วนเรื่องถ้าจะต้องคืนเงินค่าตอบแทนที่แสดงหนังไหม คือถ้าปัญหามันขนาดนั้นจริง ก็ไปเช็คแล้วก็เอาตังค์ตนไป จะได้สักเท่าไหร่  ถามว่าถือเป็นบทเรียนในการเลือกรับงานไหม สำหรับตนไม่สามารถเช็คประวัติใครได้ ไม่อยากพูดถึงใคร เพราะไม่ได้รู้จักใครจริง ไม่สามารถไปว่าเขาได้ และตนไม่ได้โกหกด้วย ซึ่งถ้ารู้ปัญหาคงไม่มีใครเล่น

"เรื่องคิวถ่ายทำยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม แต่ถ้าใครรู้มาบอกผมก็ได้ ผมก็เริ่มอยากรู้แล้วเหมือนกัน เรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีผลอะไรกับผม ผมไม่เครียดอะไรทั้งนั้น ส่วนจะถอนตัวจากหนังเรื่องนี้หรือไม่ ผมดูสภาพผมก็ไม่รู้อะไรเป็นอะไร ผมเป็นนักแสดง ผมต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เกิดมีนักแสดงอีก 20 คนที่รอผมไปทำงานอยู่ ผมจะทำยังไงอ่ะ ส่วนจะเกิดปัญหาอะไรก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไป ถ้ามันมีปัญหาหนัก หนังก็คงฉายไม่ได้อยู่แล้ว ถูกไหมครับ ถ้าเกิดผมบอกว่าขอถอนตัวตอนนี้ ถ้าคนรู้เรื่องสัญญาจะรู้ว่าเงินปรับมาสูงกว่าเงินจ้างหลายเท่านะ”